"รัก" อยู่ในคุณ
คุณอยู่ใน "รัก "
ความรัก เป็นพื้นฐานของสปิริต
ในการดำรงชีวิตอีกหนึ่งอย่าง
วาเลนไทน์ปีนี้ จะไม่ให้กล่าวถึง
" ความรัก " คงจะเชยไปซะแล้ว ;)
กว่าเราจะรู้ว่ารัก คืออะไร
กว่าจะเข้าใจว่ารักนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ ความรู้สึก
เราคงต้องพบเจอและปล่อยให้ปฎิกิริยารัก
เกิดขึ้นกับตัวเองเสียก่อน ถึงจะเข้าใจได้ดี
และลึกซึ่งกว่า ที่จะนำสายตาพาดผ่าน
ทฤษฎีหรือบทความใด
แต่จะมีซักกี่คน ที่มีความสามารถ
มองเห็นความรักที่แท้จริง
แม้ตัวดิฉันเอง กว่าจะเข้าใจได้ เป็นลำดับขั้น
ตามช่วงวัยก็ ยากที่จะนำตัวเองออกจากความทุกข์
แต่ทุกครั้งที่ปัญหาเกิด กรณีเดียวกันนั้น
ต้องพยายามปลุกตัวเองให้ตื่น จากความหลง
หลงในสิ่งที่ทำให้ตัวเองดำดิ่ง จมลึก
อ้างว้าง ตัดขาดจากโลกภายนอก
หรือตัดความสัมพันธ์ไปแบบไม่แคร์
จากแก่นสมมุติฐานของตัวเราเอง
ความผิดพลาดในรัก ดิฉันเชื่อว่าทุกคนเคยมี
เคยสัมผัส ทั้งเคยเป็นผู้ให้และผู้รับ
แต่ มันอาจผิดพลาดเพราะ
ไม่เข้าใจ
อาจผิดพลาดเพราะ
อ่อนประสบการณ์
อาจผิดพลาดเพราะ
กิเสศตันหาราคะ
อาจผิดพลาดเพราะ
แสดงออกอย่างโอ่โถง
อาจผิดพลาดเพราะ
มีรักแบบปิดบัง
อาจผิดพลาดเพราะ
ฟังผู้อื่นมากเกินไป
อาจผิดพลาดเพราะ
ตัวคุณเอง ไม่ใช่ใคร
หรืออาจผิดพลาด
เพราะหวังการตอบแทน
ฯลฯ
วันวาเลนไทน์
โดยประวัติเดิม และยังคงมุมมองของคนรุ่นใหม่
เป็นวันพิเศษที่ส่วนมากจะเฉพาะเจาะจงถึงคู่รัก
การแสดงความรัก โดยการให้ดอกไม้
การ์ดอวยพร หรืออื่นๆนอกเหนือ
เป็นวัตถุนิยมแห่งเทศกาล
โดยประสบการณ์ส่วนตัว
ส่วนมาก เจอความรัก
มาในแบบเจ็บช้ำ ทรมานทุกข์ใจเป็นส่วนใหญ่
วงการงาน เป็นภาพที่ดูสมบูรณ์ด้านความรัก
วงสังคม ดูเป็นคนที่มีความสุข
แต่ใครเล่า จะรู้วงใน
ความรัก ดิฉันเชื่อว่าทุกคน เมื่อวัยต่างกัน
ก็เข้าใจกันไปในต่างมุม
อาจเก๋ไก๋ หรือไม่ได้ความก็มี
ลองเปรียบความรักกับสีต่างๆดูสิคะ
ความรักสีดำ
เป็นความรักที่ลุ่มหลง ที่ใครหลายคน
พากันสร้างประโยคไปว่า
" ความรักทำให้คนตาบอด "
ความรักสีเขียว
เป็นความรักที่หวังผล
เมื่อเราหว่านเมล็ดรักลงไป
เราก็จะนับวันเฝ้าคอย
ไปในทุกๆเมล็ด ว่า
เมื่อไหร่ ฉันจะได้เห็น
ในสิ่งที่ฉันลงทุน
ความรักสีแดง
เป็นความรักที่ เผ็ดร้อน
รักกันแสดงออกนอกหน้า
ไม่แคร์ใคร
ความรักสีม่วง
เป็นความรักที่ เขาทำให้เราเจ็บช้ำ
แต่เราก็ยังเลือกที่จะรักเขา
ความรักสีชมพู
เป็นความรักสดใสเบาๆ
เป็นภาพผิวเผินด้านบวกด้านนึงเท่านั้น
ความรักสีขาว
เป็นความรักบริสุทธิ์
ความรักสีส้ม
เป็นความรักแบบทดลอง
คบกันดู ไปกันได้ก็ไป
ไปกันไม่ได้ก็เลิก
ความรักสีเหลือง
เป็นความรักที่ขอเป็นผู้นำ
ฉันนำเธอ เห็นไหม เขาฟังเรา
แสดงว่า เขารักเรา
ความรักสีฟ้า
เป็นความรักที่กว้าง แต่จะไปได้ไกลหรือเปล่า
คงอยู่ที่สิ่งแวดล้อม มันจะมีอะไรเข้ามาในชีวิตอีก
ความรักสีรุ้ง
ความรักที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์ฉัน
วันนี้นึกจะฟังก็ฟัง
วันนี้นึกจะดึงดัน ไม่ยอมจะทำไม
วันนี้ฉันยอม พรุ่งนี้คอยดู
ความรักสีน้ำตาล
เป็นความรักที่มีมานาน
อยู่กันจนแก่เถ้า
แต่บางคน นอนกันคนละห้อง
อยู่เป็นเพื่อนชีวิต
ดูแลกันและกัน
เป็นสักขีพยานให้ลูกหลานว่า
รักกันนานอยู่
ความรักสีน้ำเงิน
เป็นความรักที่อิสระ
รักกัน แต่ทางใครทางมันในบางที
ไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัว
ความรักสีเงิน
อยู่ได้รักได้ ต้องเลี้ยงดู
ไม่มีเงิน ไม่มีงาน ไปไกลๆ
เพื่อนผู้อ่านคะ จะสังเกตุได้ว่า
ทำไมความรักทั้งหลายข้างต้น
มันช่างน่ากลัว และไม่ค่อยน่าสัมผัสเลย
ก็เพราะ คนเราส่วนใหญ่
มีความสุขที่เห็น ความรัก เป็นไปในด้านที่เราพอใจ
พอจุดที่ตรงข้าม กับที่เราวางไว้ มันโผล่
ก็โทษความรัก คนรัก หรือตัวเองไปต่างๆนาๆ
เมื่อก่อนเคยรับไม่ได้ ทุกข์อยู่กับมัน
ทรมานกับความรักในทุกๆกรณีการ
เป็นศูนย์ไม่ใช่ ศาสตราจารย์ชำนาญรัก
แต่ด้วยประสบการณ์อีกหนึ่งมุม
ความรัก
คือการเสียสละซึ่งกันและกัน
ความรัก
คือ การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
ความรัก
ต้องมอบอิสระในสิทธิการดำรงชีวิตประจำวัน
ความรัก
คือการให้เกียรติส่งเสริมเกื้อหนุนกันและกัน
พากันไปในทางที่พัฒนาขึ้น ไม่ใช่แย่ลง
ความรัก
แม้บางครั้งทะเลาะกัน
แต่จงทะเลาะกัน เพื่อปรับความเข้าใจ
ความรัก
ต้องเป็นความรัก ที่ไม่เห็นแก่ตัว(เอง)
ความรัก
เราจะรักใครสักคน ขอจงภูมิใจ ที่เรารักเขา
ไม่ใช่ที่ เขารักเรา
ความรัก
ต้องเริ่มจากคุณรักตัวเองเป็นเสียก่อน
ถึงมีความสามารถเข้าใจที่จะรักผู้อื่น
ความรัก
คือความสมดุล
เปรียบเสมือนดาบสองคม
ฉนั้นต้องหมั่นลับให้พอเหมาะพอควร
ไม่คมไปจนทำร้ายคุณ
หรือด้านไป ทำเฉยชา
ความรัก
จะคงสม่ำเสมอ ไม่แปรเปลี่ยน
แม้ยามที่มีสุข หรือตกทุกข์ได้ยาก
ความรัก
อยู่ที่คุณเป็นคนกำหนด
อย่าปล่อยให้ใคร มากำหนดคุณ
ความรัก
เสมือนยารักษาโรค
แต่อย่านำโรคมาให้กัน
ความรัก
ต้องเชื่อใจกันและกัน
อย่างน้อยเชื่อในเขา ในเรา
อาจสุดท้ายของคุณหรือของใคร
นั่นคือ ความรักต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ
ถ้าคุณยังเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในห่วงทุกข์ของความรัก
ขอให้เข็มแข็งและคิดเสมอว่า ไม่มีใครในโลกนี้
ไม่เจ็บช้ำ ทรมานกับมัน ทุกคนและทุกคน
แต่จงดึงตัวเองขึ้นมา และภูมิใจกับมันว่า
เราเป็นคนหนึ่งในหลายคน ที่ได้ผ่านมันมาได้
และมองมันอย่างเข้าใจขึ้น เรานี่เจ๋งชะมัดเลย
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่มีรักที่สมบูรณ์อยู่แล้ว
ขอให้เป็นความรักที่สวยงาม และพร้อมที่จะจูงมือกันและกัน
ก้าวข้ามปัญหา และพัฒนาขึ้นเป็นลำดับๆ
ความรัก เป็นสิ่งที่อบอุ่น สวยงาม
เป็นกำลังใจสำคัญของทุกๆก้าวในชีวิตของคุณ
ขอจงรักษา ถนอมน้ำใจกัน
ยินดีกับรักที่คุณมี
และนำความรักมาสร้างสรรค์กำลังใจ
เพิ่มศักยภาพการดำรงชีวิต ให้เกิดประโยชน์
มากขึ้นๆ ในทุกๆวัน
ขอให้เพื่อนๆผู้อ่านทุกคน
มีความสุขกับวันแห่งความรักในปีนี้
เป็นคู่ที่สวีต น่ายกย่อง และหวานฉ่ำใจ
ส่วนใครที่ไม่มีคู่ ขอให้ได้คู่สมใจ
ใครยังทุกข์ทรมานกับความรัก
ขอให้มันมลายหายไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
ท้ายสุด ใครยังไม่คิดมีคู่ครอง
ขอภูมิใจว่าคุณก็มีความสามารถรักตัวเองเป็น
ขอพระเจ้าอวยพระพรความรักแด่ทุกคนค่ะ
Amen
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
http://www.zedge.net
คุณอยู่ใน "รัก "
ความรัก เป็นพื้นฐานของสปิริต
ในการดำรงชีวิตอีกหนึ่งอย่าง
วาเลนไทน์ปีนี้ จะไม่ให้กล่าวถึง
" ความรัก " คงจะเชยไปซะแล้ว ;)
กว่าเราจะรู้ว่ารัก คืออะไร
กว่าจะเข้าใจว่ารักนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ ความรู้สึก
เราคงต้องพบเจอและปล่อยให้ปฎิกิริยารัก
เกิดขึ้นกับตัวเองเสียก่อน ถึงจะเข้าใจได้ดี
และลึกซึ่งกว่า ที่จะนำสายตาพาดผ่าน
ทฤษฎีหรือบทความใด
แต่จะมีซักกี่คน ที่มีความสามารถ
มองเห็นความรักที่แท้จริง
แม้ตัวดิฉันเอง กว่าจะเข้าใจได้ เป็นลำดับขั้น
ตามช่วงวัยก็ ยากที่จะนำตัวเองออกจากความทุกข์
แต่ทุกครั้งที่ปัญหาเกิด กรณีเดียวกันนั้น
ต้องพยายามปลุกตัวเองให้ตื่น จากความหลง
หลงในสิ่งที่ทำให้ตัวเองดำดิ่ง จมลึก
อ้างว้าง ตัดขาดจากโลกภายนอก
หรือตัดความสัมพันธ์ไปแบบไม่แคร์
จากแก่นสมมุติฐานของตัวเราเอง
ความผิดพลาดในรัก ดิฉันเชื่อว่าทุกคนเคยมี
เคยสัมผัส ทั้งเคยเป็นผู้ให้และผู้รับ
แต่ มันอาจผิดพลาดเพราะ
ไม่เข้าใจ
อาจผิดพลาดเพราะ
อ่อนประสบการณ์
อาจผิดพลาดเพราะ
กิเสศตันหาราคะ
อาจผิดพลาดเพราะ
แสดงออกอย่างโอ่โถง
อาจผิดพลาดเพราะ
มีรักแบบปิดบัง
อาจผิดพลาดเพราะ
ฟังผู้อื่นมากเกินไป
อาจผิดพลาดเพราะ
ตัวคุณเอง ไม่ใช่ใคร
หรืออาจผิดพลาด
เพราะหวังการตอบแทน
ฯลฯ
วันวาเลนไทน์
โดยประวัติเดิม และยังคงมุมมองของคนรุ่นใหม่
เป็นวันพิเศษที่ส่วนมากจะเฉพาะเจาะจงถึงคู่รัก
การแสดงความรัก โดยการให้ดอกไม้
การ์ดอวยพร หรืออื่นๆนอกเหนือ
เป็นวัตถุนิยมแห่งเทศกาล
โดยประสบการณ์ส่วนตัว
ส่วนมาก เจอความรัก
มาในแบบเจ็บช้ำ ทรมานทุกข์ใจเป็นส่วนใหญ่
วงการงาน เป็นภาพที่ดูสมบูรณ์ด้านความรัก
วงสังคม ดูเป็นคนที่มีความสุข
แต่ใครเล่า จะรู้วงใน
ความรัก ดิฉันเชื่อว่าทุกคน เมื่อวัยต่างกัน
ก็เข้าใจกันไปในต่างมุม
อาจเก๋ไก๋ หรือไม่ได้ความก็มี
ลองเปรียบความรักกับสีต่างๆดูสิคะ
ความรักสีดำ
เป็นความรักที่ลุ่มหลง ที่ใครหลายคน
พากันสร้างประโยคไปว่า
" ความรักทำให้คนตาบอด "
ความรักสีเขียว
เป็นความรักที่หวังผล
เมื่อเราหว่านเมล็ดรักลงไป
เราก็จะนับวันเฝ้าคอย
ไปในทุกๆเมล็ด ว่า
เมื่อไหร่ ฉันจะได้เห็น
ในสิ่งที่ฉันลงทุน
ความรักสีแดง
เป็นความรักที่ เผ็ดร้อน
รักกันแสดงออกนอกหน้า
ไม่แคร์ใคร
ความรักสีม่วง
เป็นความรักที่ เขาทำให้เราเจ็บช้ำ
แต่เราก็ยังเลือกที่จะรักเขา
ความรักสีชมพู
เป็นความรักสดใสเบาๆ
เป็นภาพผิวเผินด้านบวกด้านนึงเท่านั้น
ความรักสีขาว
เป็นความรักบริสุทธิ์
ความรักสีส้ม
เป็นความรักแบบทดลอง
คบกันดู ไปกันได้ก็ไป
ไปกันไม่ได้ก็เลิก
ความรักสีเหลือง
เป็นความรักที่ขอเป็นผู้นำ
ฉันนำเธอ เห็นไหม เขาฟังเรา
แสดงว่า เขารักเรา
ความรักสีฟ้า
เป็นความรักที่กว้าง แต่จะไปได้ไกลหรือเปล่า
คงอยู่ที่สิ่งแวดล้อม มันจะมีอะไรเข้ามาในชีวิตอีก
ความรักสีรุ้ง
ความรักที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์ฉัน
วันนี้นึกจะฟังก็ฟัง
วันนี้นึกจะดึงดัน ไม่ยอมจะทำไม
วันนี้ฉันยอม พรุ่งนี้คอยดู
ความรักสีน้ำตาล
เป็นความรักที่มีมานาน
อยู่กันจนแก่เถ้า
แต่บางคน นอนกันคนละห้อง
อยู่เป็นเพื่อนชีวิต
ดูแลกันและกัน
เป็นสักขีพยานให้ลูกหลานว่า
รักกันนานอยู่
ความรักสีน้ำเงิน
เป็นความรักที่อิสระ
รักกัน แต่ทางใครทางมันในบางที
ไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัว
ความรักสีเงิน
อยู่ได้รักได้ ต้องเลี้ยงดู
ไม่มีเงิน ไม่มีงาน ไปไกลๆ
เพื่อนผู้อ่านคะ จะสังเกตุได้ว่า
ทำไมความรักทั้งหลายข้างต้น
มันช่างน่ากลัว และไม่ค่อยน่าสัมผัสเลย
ก็เพราะ คนเราส่วนใหญ่
มีความสุขที่เห็น ความรัก เป็นไปในด้านที่เราพอใจ
พอจุดที่ตรงข้าม กับที่เราวางไว้ มันโผล่
ก็โทษความรัก คนรัก หรือตัวเองไปต่างๆนาๆ
เมื่อก่อนเคยรับไม่ได้ ทุกข์อยู่กับมัน
ทรมานกับความรักในทุกๆกรณีการ
เป็นศูนย์ไม่ใช่ ศาสตราจารย์ชำนาญรัก
แต่ด้วยประสบการณ์อีกหนึ่งมุม
ความรัก
คือการเสียสละซึ่งกันและกัน
ความรัก
คือ การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
ความรัก
ต้องมอบอิสระในสิทธิการดำรงชีวิตประจำวัน
ความรัก
คือการให้เกียรติส่งเสริมเกื้อหนุนกันและกัน
พากันไปในทางที่พัฒนาขึ้น ไม่ใช่แย่ลง
ความรัก
แม้บางครั้งทะเลาะกัน
แต่จงทะเลาะกัน เพื่อปรับความเข้าใจ
ความรัก
ต้องเป็นความรัก ที่ไม่เห็นแก่ตัว(เอง)
ความรัก
เราจะรักใครสักคน ขอจงภูมิใจ ที่เรารักเขา
ไม่ใช่ที่ เขารักเรา
ความรัก
ต้องเริ่มจากคุณรักตัวเองเป็นเสียก่อน
ถึงมีความสามารถเข้าใจที่จะรักผู้อื่น
ความรัก
คือความสมดุล
เปรียบเสมือนดาบสองคม
ฉนั้นต้องหมั่นลับให้พอเหมาะพอควร
ไม่คมไปจนทำร้ายคุณ
หรือด้านไป ทำเฉยชา
ความรัก
จะคงสม่ำเสมอ ไม่แปรเปลี่ยน
แม้ยามที่มีสุข หรือตกทุกข์ได้ยาก
ความรัก
อยู่ที่คุณเป็นคนกำหนด
อย่าปล่อยให้ใคร มากำหนดคุณ
ความรัก
เสมือนยารักษาโรค
แต่อย่านำโรคมาให้กัน
ความรัก
ต้องเชื่อใจกันและกัน
อย่างน้อยเชื่อในเขา ในเรา
อาจสุดท้ายของคุณหรือของใคร
นั่นคือ ความรักต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ
ถ้าคุณยังเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในห่วงทุกข์ของความรัก
ขอให้เข็มแข็งและคิดเสมอว่า ไม่มีใครในโลกนี้
ไม่เจ็บช้ำ ทรมานกับมัน ทุกคนและทุกคน
แต่จงดึงตัวเองขึ้นมา และภูมิใจกับมันว่า
เราเป็นคนหนึ่งในหลายคน ที่ได้ผ่านมันมาได้
และมองมันอย่างเข้าใจขึ้น เรานี่เจ๋งชะมัดเลย
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่มีรักที่สมบูรณ์อยู่แล้ว
ขอให้เป็นความรักที่สวยงาม และพร้อมที่จะจูงมือกันและกัน
ก้าวข้ามปัญหา และพัฒนาขึ้นเป็นลำดับๆ
ความรัก เป็นสิ่งที่อบอุ่น สวยงาม
เป็นกำลังใจสำคัญของทุกๆก้าวในชีวิตของคุณ
ขอจงรักษา ถนอมน้ำใจกัน
ยินดีกับรักที่คุณมี
และนำความรักมาสร้างสรรค์กำลังใจ
เพิ่มศักยภาพการดำรงชีวิต ให้เกิดประโยชน์
มากขึ้นๆ ในทุกๆวัน
ขอให้เพื่อนๆผู้อ่านทุกคน
มีความสุขกับวันแห่งความรักในปีนี้
เป็นคู่ที่สวีต น่ายกย่อง และหวานฉ่ำใจ
ส่วนใครที่ไม่มีคู่ ขอให้ได้คู่สมใจ
ใครยังทุกข์ทรมานกับความรัก
ขอให้มันมลายหายไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
ท้ายสุด ใครยังไม่คิดมีคู่ครอง
ขอภูมิใจว่าคุณก็มีความสามารถรักตัวเองเป็น
ขอพระเจ้าอวยพระพรความรักแด่ทุกคนค่ะ
Amen
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
http://www.zedge.net

ความคิดเห็น