ตอน...
ลูกสาวแม่...
ลูกสาวแม่...
ในวันที่ต้อง ขนลากกระเป๋า ใบใหญ่ๆ เพียงไม่กี่ใบ
ขึ้นรถ ลำเลียงต่อ ไปที่สนามบินใหญ่
เป็นภาพย้ำชัด แน่นอนว่า ต้องเดินทางไกล
คิดไว้ แต่เพียง..ไม่ต้องขนอะไรไปให้วุ่นวาย
อีกไม่กี่เดือน ไม่กี่ปี ก็ได้กลับมาอยู่ดี....
ขึ้นรถ ลำเลียงต่อ ไปที่สนามบินใหญ่
เป็นภาพย้ำชัด แน่นอนว่า ต้องเดินทางไกล
คิดไว้ แต่เพียง..ไม่ต้องขนอะไรไปให้วุ่นวาย
อีกไม่กี่เดือน ไม่กี่ปี ก็ได้กลับมาอยู่ดี....
กาลเวลา และตัวเลข ในปฎิทิน
วิ่งแซง แข่งขันกัน จนน่ากลัว
สิ่งต่างๆใดใด ที่เกิดขึ้น ระหว่างนี้....
วิ่งแซง แข่งขันกัน จนน่ากลัว
สิ่งต่างๆใดใด ที่เกิดขึ้น ระหว่างนี้....
ใช่หมายความเสมอ ว่า......
แม่ไม่ดู ไม่แคร์ ไม่เหลียวแล
แม่ไม่ดู ไม่แคร์ ไม่เหลียวแล
ไร้ความรู้สึก หมดความห่วงหา
และสิ้นเยื่อใย
และสิ้นเยื่อใย
ลูกจ๋า...อยากให้ลูกทำความเข้าใจใหม่
ว่าข้อความ คำคิด เหล่านี้
มันบิดเบี้ยว ผิดมุม เป็นเพียงเปลือกนอก
ว่าข้อความ คำคิด เหล่านี้
มันบิดเบี้ยว ผิดมุม เป็นเพียงเปลือกนอก
ขอให้หักดิ่ง แกะปลอกมันออก
จับโยนทิ้ง และขว้างมันออกไปให้ไกลตัว
จับโยนทิ้ง และขว้างมันออกไปให้ไกลตัว
............................................................................
สิ่งที่หนู ลูกแม่ ได้เรียนรู้
ในการ ผ่านเวียนเห็น
บุคคลรอบข้าง
และสังคมข้างกาย
สิ่งแวดล้อมของหนู
ปัจจุบัน ณ ตอนนี้ต่างหาก ...
เป็นสิ่งที่แม่คิดว่า
บุคคลรอบข้าง
และสังคมข้างกาย
สิ่งแวดล้อมของหนู
ปัจจุบัน ณ ตอนนี้ต่างหาก ...
เป็นสิ่งที่แม่คิดว่า
ลูกจะได้ทำความรู้จัก
เปิดตามองเห็น และ
นำมาคิด วิเคราะห์
ด้วยตนเอง...เป็น
ปราศจาก คำพูด-ตอบ
ปราศจาก คำพูด-ตอบ
หลุดพ้นด้วยคำจากปากของแม่
โดยตรง...... ดีที่สุด
เพื่อที่ลูกของแม่ ...จะสามารถมองเห็น
เพื่อที่ลูกของแม่ ...จะสามารถมองเห็น
ในอีกด้าน ของอีกหลายๆมุม
พ่อก็ยังเป็นพ่อ
ก่อนคราว ที่ลูกอยู่กับแม่
หลังจาก การตัดสินใจ
แยกทางเดิน กับพ่อของหนู
แม่ ไม่เคยลืม ที่จะคอยประสานและ
ติดต่อความสัมพันธ์
ให้ลูก ได้เจอกับพ่อ...
อยู่บ่อยๆ
ตัวลูก รู้ และเข้าใจ
ด้วยตัวเอง ดีที่สุดแล้ว
ว่าแม่นั้น เคยพูดไว้ ในสิ่งใด
ที่ทำร้าย หรือกล่าวหา
ให้พ่อของลูกเสียหาย
หรือสร้างภาพทางลบ
ในความทรงจำของลูกหรือไม่ ...
คนเรา มีดีมีเสีย
มีข้อผิดพลาดกันทุกคน
แต่การที่นำข้อผิดพลาดนั้น
ให้เกิด ซ้ำแล้วซ้ำอีก
จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปนั้น
ใครๆ ก็คงยากที่จะยอมรับมัน...
การใช้ชีวิตคู่
การมีครอบครัว
การมีครอบครัว
เมื่อวันหนึ่ง.....
เดินมาถึงจุด ที่ต้องแยกทาง
คนส่วนใหญ่ ก็จะพูดถึงแต่
สิ่งที่ไม่ดีของกันและกัน
ให้บุคคลที่สาม รับรู้
วกวน วนเวียน เป็นอยู่เช่นนี้
วกวน วนเวียน เป็นอยู่เช่นนี้
นับได้ว่า อาจเป็นพื้นฐาน
ตามหลักจิตวิทยา ของมนุษย์
ที่หาดู พบเห็น ได้ไม่ยาก
ในสังคม ครอบครัว ชีวิตคู่ ปัจจุบัน
ในสังคม ครอบครัว ชีวิตคู่ ปัจจุบัน
ส่วนตัวแม่แล้ว ใช้ความพยายาม
ในการบังคับตัวเอง ฝึกพัฒนาความคิด
ที่จะไม่เผลอพลาด ตกเป็นเป้า
เป็นหนึ่ง ในกลุ่มคนคู่ส่วนหนึ่ง ในกลุ่มคนส่วนใหญ่
และหมู่คน ทั่วๆไป ในนั้น
ตั้งแต่ลูกยังเด็ก
บนหนทาง
การใช้ชีวิตร่วมกัน
กับพ่อของหนู
การใช้ชีวิตร่วมกัน
กับพ่อของหนู
มันซับซ้อน ซ่อนเงื่อน
เกินกว่าที่แม่ จะหาคำใดๆ
มาอธิบายให้ฟัง
ทุกครั้ง ที่พ่อกับแม่
ไม่สามารถ หาข้อตกลง
และลงเอยกันด้วยดี
ไม่สามารถ หาข้อตกลง
และลงเอยกันด้วยดี
แม่ได้แต่ตระหนักว่า..
การอ้าปาก ชี้ให้ลูกเห็น
และรับรู้เรื่องราว
และรับรู้เรื่องราว
มันเป็นสิ่งไม่สมควร..
ในสายตาแม่ ลูกของแม่
ยังเล็กเกิน ที่จะเข้าใจอยู่ดี
ณ วันนี้
สิ่งใดที่หนูรับรู้
จากปากของพ่อ ของคนรอบข้าง
สิ่งใดที่หนูรับรู้
จากปากของพ่อ ของคนรอบข้าง
บวกกับสิ่ง ที่ลูกได้เห็นนั้นๆ ....
ตัวแม่เอง ่กลับอยู่ในสถานะ ทีไม่เคยมีโอกาส
อธิบาย ถึงที่มาที่ไป
ให้ลูกฟัง สักครั้ง
ให้ลูกฟัง สักครั้ง
...................................................
ช่วงที่หนู ราวๆหกขวบ
บ่อยแค่ไหน ที่เราสองคนแม่ลูก
แอบไปต่างจังหวัดกัน
ขับรถ ด้วยความเร็ว ที่
ไม่คิดหน้าคิดหลัง
กลางดึกกลางดื่น....
กลางดึกกลางดื่น....
ลูกเห็นน้ำตา ล้นใบหน้า
ปราศจากคำอธิบาย
ขณะที่ สองมือแม่นั้น ถึอพวงมาลัย
สายตา จ้องมองไปข้างหน้า
เหมือนคนบ้า ยังไงก็ไม่ผิด..
ตกดึก เวลากลางคืน
แม่รู้สึกโดดเดี่ยวเสมอ
และไม่เคยเข้าใจ
ว่า แม่มีหนู อยู่ข้างๆ
แต่ทำไม่ แม่ถึง รู้สึกปวดร้าว
แฝงความทรมาน
ไม่สามารถจับต้อง
และหาความสุข
ไขว่คว้ามัน มาไว้ได้
ไขว่คว้ามัน มาไว้ได้
แม่อยากทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง
ไว้ข้างหลัง แม้ชั่วขณะก็ตาม
มันยากที่จะรับ และปรับตัวกับเหตุการณ์
ในปัญหา สั่งสม ทับถม ..
เดิมแล้ว..เดิมเล่า..
.......................................................
.......................................................
หลังจากแยกทางกับพ่อของหนู
แม่ก้าวพลาด เข้าสู่ เส้นทางเดิม
เหมือนแม่เพิ่งอายุย่างเข้ายี่สิบ..
ที่อยากทำอะไรตามใจตนเอง
แม่ก้าวพลาด เข้าสู่ เส้นทางเดิม
เหมือนแม่เพิ่งอายุย่างเข้ายี่สิบ..
ที่อยากทำอะไรตามใจตนเอง
ทำผิดหลัก ข้ามขั้นตอน ไม่น้อย
การโหยหา ในสิ่งที่แม่ อยากจะทำ
อยากจะมี.......ต้นๆ คือเรื่องเรียน
และหน้าที่การงาน
อยากจะมี.......ต้นๆ คือเรื่องเรียน
และหน้าที่การงาน
ด้วยสถาณการณ์ ช่วงเวลาดังกล่าว
สุดท้าย เป็นสิ่งทีจับต้องได้
สุดท้าย เป็นสิ่งทีจับต้องได้
กับใบปริญญา
บวก พฤติกรรม ที่แม่แปลความผิดๆ
อยู่ในการปลูกฝัง
อยู่ในการปลูกฝัง
จากการเลี้ยงดูหนู ในอดีต
ทำให้แม่ ก่อสร้างกำแพง
ผลักความสัมพันธ์ ออกห่่าง
เลยดูเหมือนว่า......
ทำให้เกิดความเกลียดชัง
ทำให้เกิดความเกลียดชัง
ในสายตาลูก..โดยอัตโนมัติ
........................................................
ชีวิตที่นี่ จุดแห่งการเริ่มต้น
นับจากความเป็นศูนย์
นับจากความเป็นศูนย์
เปิดฟ้าใหม่ กับโลกที่กว้างขึ้น
ในขณะที่ ในเวลาเดียวกัน...
แม่ยังไม่รู้ชะตาชีวิต เส้นทางที่แน่นอน
ในขณะที่ ในเวลาเดียวกัน...
แม่ยังไม่รู้ชะตาชีวิต เส้นทางที่แน่นอน
แม้แหล่งพักอาศัย
ที่เป็นหลักเป็นแหล่ง
พ่อคนที่สอง ที่ลูกของแม่
ก็เคยรัก และเคารพ
ก็เคยรัก และเคารพ
ด้วยฐานะ ก็ใช่ว่า
จะร่ำจะรวย อะไรมากมาย
จะร่ำจะรวย อะไรมากมาย
แต่ด้วย ความพยายาม ขยัน
ความสามารถ และคุณความดี
ทำให้สภาพความเป็นอยู่
ของครอบครัวเราที่นี่
ค่อยๆ ผ่านอุปสรรค
ข้ามความว่างเปล่า
ที่ยากจะจับต้อง ไปได้อย่างไม่เลว
ในทุกๆวัน และทุกๆปี
คุณภาพชีวิต การอยู่อาศัย
การอยู่การกิน ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
การอยู่การกิน ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
แอบมีท้อแท้บ้าง บ่อยครั้ง
ที่มัน ชอบเข้ามาเยือน
แป๊บๆ เป็นช่วงๆ
บางที แม่ท้อสุดๆ
แต่แม่ก็ไม่เคยหมดหวัง
ได้แต่มองหาคน ที่เขาแย่กว่าเรา
มีให้เห็นอยู่มาก
มันก็ไม่ต่างจากประเทศที่เราเกิด...
นั่น เป็นอีกหนึ่งเหตุผล ในขณะนั้น
ที่ทำให้แม่ และครอบครัวของเราที่นี่
ฮึดที่จะสู้ และมีกำลังใจ ก้าวต่อไป.
สำหรับลูกของแม่ แม่คิดว่า
มันอาจลำบาก
ถ้าลูกต้องมาเปลี่ยนพฤติกรรม
ใช้ชีวิต ในช่วงที่หักเห คนละขั้ว
ในช่วงที่ลูกนั้น ยังอ่อนเยาว์ ด้วยอายุวัย
ลูกเคยมีพี่เลี้ยง
ทั้งคนรถ แม่บ้าน
ล้อมหน้าล้อมหลัง
ทุกอย่าง สิ่งไหนใด อยากได้
ใช่ว่า จะขาด ไม่สมดังใจ
หรืออาจเกิน ในสิ่งที่แม่มอบให้
เพื่อเพียง อยากสร้างความสมดุล
ทดแทน ในสิ่งตรงข้าม ที่ขาดไป...
เมื่อเทียบกับที่ต้องเสี่ยง
โดยนำหนูมาใช้ชีวิตร่วมกัน
แม่อาจผิด ที่คิดไปเอง
ว่ามันไม่ง่าย
และมากด้วยความกดดัน
กับความคาดหวัง
จากสายตาคนรอบข้าง
สุดท้าย.....
แม่ ต้องยอมปล่อย ลูกไป
แม่รู้สึก เหมือนเป็นการสูญเสีย
ที่ยิ่งใหญ่ ในชิวิตแม่
แต่ก็เอาความหวัง
หมั่นคอยประคบใจ
ปักหลัก ให้ยืน และตั้งตัวอยู่ได้
อีกเหตุผลหนึ่ง
จากที่แม่ จำคำพูด ของลูกได้
บางครั้ง ลูกอยากอยู่บ้านเดียว กับพ่อ
ด้วยเหตุผลใด แม่ไม่ขอรับรู้
จุดๆนี้ แม่เชื่อว่าลูก
ได้จับคำของลูกแล้ว
และแน่ใจอย่างยิ่ง
ว่าลูกแม่ ค้นพบ และเจอ
เรื่องราวต่างๆ ที่ต่างออกไป
มันต่างหรือเหมือน กับภาพที่ลูกวาดไว้มั้ย
ไม่มีใคร ตัดสิน รู้ดี ไปกว่าตัวลูกเอง
....................................
แม่เพียงย้ำ ให้ลูกได้เห็น
ในความเป็นจริง
ว่าทุกวันนี้ ลูกอยุ่กับใคร
ใช้ชีวิตแบบไหน
...................................
โรงเรียน และการศึกษา
มุมมอง ของสภาพความเป็นอยู่
ที่วันหนึ่งข้างหน้า
ลูกของแม่ อาจต้องเปลี่ยนสถานะ
เป็นนักเรียนนอก
แม่เห็นว่า มันก็ไม่ได้แย่
ไม่ได้เลวร้ายไปกว่า
สถานศึกษา เอกชน บ้านเรา
แต่จำเป็น ต้องมีเงินมากพอ
ที่จะสามารถ ส่งเสีย ให้ลูกของแม่
ได้ลงเรียน ศึกษาต่อ ในโรงเรียน
หรือ มหาวิทยาลัย ดีๆ มากคุณภาพ
นั่นเป็นเป็นหา ในช่วงแย่ๆ....ด้านปัจจัย
ที่ทำให้แม่ รู้สึกอึดอัด ...
สุดท้าย...
แม่ซะอีก ต้องขอบคุณ พ่อของลูก
ในทุกๆวัน มานี้ ...
ที่ยังส่งเสีย จ่ายค่าเทอม ให้ลูก
ได้มีโอกาส ได้เล่าเรียน ในโรงเรียน
ที่มีคุณภาพ และมันยังคงเป็นโรงเรียนเดียว
ที่ต่อเนื่อง จากการที่แม่ ตัดสินใจ
ให้ลูกเข้าศึกษา เริ่มแรก
ตั้งแต่ชั้นประถมหนึ่ง
หลายปีมา ค่าใช้จ่าย ต่อเทอมของลูก
และกิจกรรมพิเศษ มากเกินความสามารถ
ที่แม่จะส่งเสียได้ ในปัจจุบัน
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
ในอนาคต แม่ไม่มีความสามารถพอ
........................
แม่ไม่รู้ ว่าทำไม หลายครั้ง
ครั้งแล้ว ครั้งเล่า
ที่แม่นั้น ต้องการพูดคุย
กับลูกของแม่เอง
ลูกจะหายไป จากระบบการพูดคุยกันเสมอ
ไม่ว่าจะเป็น....
ในสังคม โลกออนไลน์
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์
สื่อสนทนา ตามสมัยนิยม
ด้วยกฎใดๆก็ตาม ที่แม่คาดเดา
มีทั้งรู้ และไม่เข้าใจ
บวกกับ แม่พยายาม ที่จะหาทาง
เพื่อได้ ติดต่อ....
อยากพูด อยากฟังเสียง
เห็นความคิดอ่าน ความก้าวหน้า
อยากสัมผัส รับรู้ถึงความรัก
ผ่านทางใดทางหนึ่ง
ได้หรือไม่....
นี่เป็นคำถาม ที่คาใจแม่มาตลอด...
แม่เหนื่อย กับการใช้ชีวิตที่ปิดบัง
ไม่เปิดเผย ไม่เคยอยู่กับที่
คอยหลบหลีก และหลบหนี
โดยเฉพาะ ตลอดหลายๆปีมา
แม่ ใช่ว่าบังคับ
ในเชิงที่ ลูกจำเป็นต้อง
ประพฤติ ปฎิบัติตัว
แบบเผยตัวตน
หรือเป็นที่รู้จัก ในสังคม
สาธารณะ
แต่แม่ แค่อยากให้ลูก
ใช้ชีวิต ให้เหมือน กับเพื่อนๆ ผู้คน ทั่วๆไป
จดหมายฉบับนี้
เป็นแหล่งและสิ่งผ่านส่ง
ถึงข้อความ ความรัก
ความเป็นห่วง
กับการคาดหวังของตัวแม่เอง
ว่าอาจ จะไม่โดนปิดกั้น
และมีข้อความใด บิดเบือนไป
หวังสูงสุด ให้ลูกของแม่ ได้รับรู้
และมีเวลาได้อ่านมัน
เมื่อใดที่ลูกไม่เข้าใจ
กี่ครั่งที่ลูกคิดถึงแม่
มันจะยังอยู่ตรงนี้ ที่เดิม
ให้ลูกแม่ ได้จับต้อง
ความรู้สึกจากใจ
ความสัมพันธ์ ที่แม่ส่งถึง
ไม่เคย หนีไปไหน
...............................
สุดท้าย และหวังว่ายังไม่ท้ายสุด
กับประเด็นหลักคือ...
อีกไม่กี่ปี หนูจะอายุครบ 18 ปี
เป็นเวลาที่หนู โตเป็นผู้ใหญ่
มีสิทธิ์ และอำนาจ ใจการตัดสินใจ
สิ่งที่แม่ภาวนา ขอพรต่อพระเจ้า
คือ.......
ให้แม่ กับลูกของแม่คนนี้
กับครอบครัวใหม่ ของเรา
มาใช้ชีวิต อย่างคนปกติ ธรรมดา
และมาร่วมกันพัฒนา
ในความคิด ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
ทั้งศีลธรรม คุณธรรม
ที่ยึดพื้นฐาน ของอิสระ เสรีภาพ
ถือเป็นชีวิตใหม่
ที่แม่ได้เคย เดิน แทบจะ กระโดด
และก้าวข้าม ผ่านมาแล้ว
........................................
แม่อยากให้ลูก มีความพร้อม
ในการตัดสินใจ กับทางที่ลูก
จะเลือกเดินมากับแม่ และครอบครัวใหม่
ด้วยตัวของลูกเอง
ไม่ใช่เพราะแม่บังคับ
หรือแย่งชิง เพื่อนำตัวลูกมา
ว่าด้วยคำ และสิทธิ์ ของกฎหมาย
ถึงเวลานั้น แม่คงภูมิใจ ในตัวลูก
ในทุกสิทธิ์ เคารพในทุกทางออก ของลูก
แม่ และเราที่นี่ ครอบครัวใหม่
ให้เกีรยติ การตัดสินใจ ของทุกคนในครอบครัว
และแน่นอน ของลูกแม่เสมอ
และแน่นอน ของลูกแม่เสมอ
...............................................
ตัวแม่ และเรา ทางนี้ ดีใจและยินดีอย่างยิ่ง
ถ้าลูกจะข้ามฟ้า ข้ามทะเล
ถ้าลูกจะข้ามฟ้า ข้ามทะเล
มาเรียนรู้ มองโลกให้กว้างขึ้น กับเรา
ถึงจะเพียงชั่วคราว อาจเพียงช่วงสั้นๆ
ในระยะ ของวัน ปิดภาคเรียน
หรือ ช่วงวันหยุด ของเทศกาล...
............................................................
ทุกครั้ง ที่ลูก มองผ่านแม่
ครอบครัวเรา ครอบครัวใหม่...
ในภาพ จากสื่อ ของสังคม
ที่เปี่ยมสุข สนุกสนาน
มีภาพแต่ที่สังคมตัดสิน
กลายเป็นบรรทัดฐาน ของสถานะ
กับคำว่า " ชีวิตดี๊ดี " เหล่านี้
มีภาพแต่ที่สังคมตัดสิน
กลายเป็นบรรทัดฐาน ของสถานะ
กับคำว่า " ชีวิตดี๊ดี " เหล่านี้
แต่ในใจเรานั้น คิดถึงลูกเสมอ
ลูกที่เคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ....
มันไม่ง่าย ที่มองไปข้างๆ
แล้วลูกหายไป เคว้งคว้าง
พวกเรามีเศร้าใจ เพียงพอ
ที่ได้พยายาม ซ่อนมันไว้ ต่างหาก
นั่น...เพียงเพราะ
ชีวิต ต้องเดินหน้าต่อไป
และทำมัน พัฒนาให้สูงขึ้น
ทั้งสุขภาพจิต และคุณภาพใจ
ไม่สร้างความผิดพลาดซ้ำสอง
ลูกชายคนเล็กของแม่ ....
น้องชายแท้ๆ คนเดียวของลูก
แม้จะคนละพ่อ แต่ก็ท้องเดียวกัน
ด้วยสปิริตแห่งความหวัง
ที่แม่อยากจะดูแล
อยากเปลี่ยนพฤติกรรม
สร้างคุณสมบัติใหม่
ของความเป็นแม่ ที่สมบูรณ์กว่าเดิม
และกว่าที่เคยเป็น
จำเป็น ต้องวางรากแก่น
ความแข็งแรงให้เขาอย่าง
ดีที่สุด เพื่อให้พร้อม กับโลกในอนาคต
บนหนทางแห่งศีลธรรม
ที่เปี่ยมด้วยคุณความดี
เฉกเช่นเดียวกัน กับลูก
ที่แม่อยากมอบให้
ในวันหนึ่ง ในอนาคต ในวันนั้น
ที่ลูกแม่ เข้าใจในเรา เข้าใจในกันและกัน
...................................
พระเจ้าอวยพระพร ลูกเสมอ...
อาเมน

ความคิดเห็น