กว่าจะถึงวันนั้น ผ่านมาจนถึงวันนี้
กับชีวิตที่คนทั่วๆไป
เรียกกันว่า "ดารา"
ตอนที่ 4
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆผู้รักการอ่านทุกคน
ความตอนที่แล้ว คงเข้าใจ
คำว่า " แก่นใน " กันไปบ้างแล้ว
อย่าลืมว่า ในทุกอาชีพงานย่อมมี
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังค้นหา
บทความตอนที่ 4 นี้ มีแรงบันดาลใจ
จากลูกศิษย์ลูกหา
ที่เธอ เพิ่งจะได้รับชัยชนะ
ก้าวข้ามความสำเร็จ
ในแวดวงบันเทิง มาอีกหนึ่งขั้น
มันมีสิ่งที่ค้างคาใจอยู่ไม่กี่อย่าง
เกี่ยวกับผลตอบรับ หรือ feedback ที่ส่งผล
ต่อความเข้มแข็งของจิตใจ
และความรู้สึกส่วนตัว
บางครั้ง ทำให้ดิฉันรู้สึกท้อ
พยายามสู้กับสิ่งเร้า
ที่ทำให้เรารู้สึกแย่
ตลอดการเดินทาง
บนเส้นทางบันเทิง
ประสบการณ์จริงและตรงของตัวเอง
มันเต้นรัวเหลือเกิน
ทนเก็บไว้ไม่ไหวแล้ว
จึงอยากจะนำออกมาร้อยเป็นถ้อยความ
ให้อ่านกัน ณ บัดนาว
อีกสิ่งหนึ่ง
ที่มันจะมาอยู่เป็นเพื่อน
ตลอดการเดินทางบนถนนสายนี้
นั่นคือ
การนินทา ในด้านลบ
ที่ไม่สร้างสรรค์
ไม่ว่าจะเป็น
การว่าร้าย
หมั่นใส้
อยากได้หน้า
อยากโชว์
อยากเด่น
อยากดัง
ประจบประแจง
ปากหวาน
ทำซื่อ
ทำใส
ทำเวอร์
กระแดะ
ดัดจริต
แอ๊บ
ไม่เห็นสวยตรงไหน
ไม่เห็นจะเก่ง
ฯลฯ
ความเป็นผู้ใหญ่ ประสบการณ์ผ่านพ้น
มันทำให้เราเห็นกระจ่างแจ้งขึ้นอีกกว่าเก่า
ว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา ในระบบวงจรชีวิตคนเรา
และมันทำให้เรียนรู้ว่า ไม่ใช่เฉพาะงานบน
เส้นทางบันเทิงเท่านั้น แต่มันมีในทุกสาขาอาชีพ
การอบรมเรื่องความสัมพันธ์องค์กร และ
การศึกษาเรียนรู้ เรื่อง Leadership หรือภาวะผู้นำ
ในรายละเอียด
มันทำให้เราสบายใจ
และปฏิบัติงานในหน้าที่
ได้อย่างมีความสุข
มากขึ้น กว่าแต่ก่อน
ช่วงที่ดิฉันมีผลงานในวงการบันเทิง
อย่าเพิ่งพูดถึง
เรื่องของ feedback ของคนไกลตัวเลยค่ะ
เอาคนใกล้ๆตัวก่อน
ส่วนมากจะเป็นผลบวก และจะมาเพิ่มพูล
กำลังใจของเราได้ดีทีเดียว
เช่น คนในครอบครัว
ญาติพี่น้อง ครู อาจารย์ เจ้านาย
เพื่อนสนิทรวมถึง
กลุ่มสังคมรอบข้างในชีวิตประจำวันที่เรา
เกี่ยวข้อง พบเจอกัน อยู่บ่อยๆ เป็นกลุ่มเล็ก
แบบเฉพาะ
ถ้าเป็นบุคคล ที่ใกล้ตัวเรา
เขาเตือน หรือพูดในทางลบ
ดิฉันจะนำคำกล่าวเหล่านั้น มาปรับปรุง
ตัวเองอย่างกระตือรือร้น
เพราะคิดอยู่เสมอ
ในความหวังดีที่จริงใจ
ของพวกเขามาตลอด
และไม่ใช่พวกที่หวังจะมาสนิท
คบหากับเรา หลังจากที่เราเป็นคนดัง
จะสังเกตุได้ง่ายทีเดียว
ซึ่งมีรายล้อมอยู่ทุกๆที่
เรื่องของอีโก้
ยิ่งทำงานในวงการบันเทิงนานๆ
จะได้รับแต่คำชม คำยอ คำหวาน
ทำให้อีโก้สูง โดยไม่รู้ตัว
ต้องระวัง บางครั้ง
ทำให้คุณไม่สนแม้แต่คำเตือน
ของคนใกล้ตัว
เมื่อก่อนทุกครั้งที่ดิฉันท้อแท้ในสายงาน
จากคำว่ากล่าวทั้งหลาย
สิ่งที่มาบำบัด และสร้างกำลังใจ
ได้ดีที่สุด
คือคนที่คุณไว้ใจมากที่สุด
ดิฉันเลือกที่จะมี
พ่อ กับแม่ เป็นอันดับแรก
ใครจะว่าอะไร ขอให้พ่อกับแม่ มองเราใน
ทางที่เหมาะที่ควร ที่สวย ที่เก่งไว้ก่อน
พวกเขา เป็นบุคคลใกล้ชิดแรก ที่จะให้วัคซีน
ป้องกันได้ดีกว่าทุกคนในโลกนี้
" ความสำเร็จของเรา
เราจะไม่ภูมิใจไปกว่า
บุคคลที่อยู่ในฐานะ
บิดา มารดา
หรือ ครูอาจารย์ที่พร่ำสอน "
ขอให้จำไว้
ดิฉันอยู่ในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว
แม้ในระยะเวลาไม่นานนัก เมื่อเทียบกับ
ดารานักแสดงรุ่นเดียวกัน
พวกเขาเหล่านั้น โด่งดัง และมีชื่อเสียง
อย่างต่อเนื่อง
เคล็ดลับที่ทำให้พวกเขายืนหยัด
และเข็มแข็งอยู่ได้ในอาชีพนี้
คือขอให้พ่อ แม่ คนใกล้ชิดเราเข้าใจ
ในความเป็นเรา และในสิ่งที่เรา
ตั้งใจทำ ก็เพียงพอ
ให้มองใหม่ว่า เรา อยู่ในอาชีพที่เปิดเผย
เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นคนเบื้องหน้า จึงมีอะไร
ให้พูดถึง กล่าวถึง
ในผู้คนหมู่มาก เป็นธรรมดา
วงการนี้จะเจอหนักกว่านั้นคือ
บางครั้ง เจอการสร้างเรื่องราว
กล่าวความเท็จ
เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์
สื่อนิตยสารบันเทิงแทบทุกเล่ม
ทำให้คนอ่านก็ว่ากันไปตามเนื้อที่เห็น
ต่างๆนาๆ
ช่างเศร้าใจนัก กับสิ่งที่เราไม่ได้ทำ
" มันไม่ได้เป็นอย่างที่เขียนนะ"
" มันไม่ใช่อย่างที่เข้าใจกันนะ "
อธิบายให้เราสบายใจได้ก็แต่คนใกล้ตัว
ส่วนคนที่เป็นแฟนละคร ผู้รับสารหล่ะ
" เรารู้สึกอึดอัดจัง
จะทำยังไงให้พวกเขาเข้าใจดีหล่ะ "
สังเกตุกันมั้ยคะ บางครั้ง ถ้าถึงขั้นรุนแรง
ลุกล้ำสิทธิส่วนตัว ก็ออกมาแถลงข่าว
ขอโทษ ขอโพยกันไป มีให้เห็นบ่อยๆ
นี่ถือเป็นธรรมเนียมของวงการบันเทิงอีก
อย่างไปเลย
อีกสิ่งที่ต้องระวัง เรื่องของการยุแยง
จากคนสนิทใหม่ ซึ่งจะเป็นเพื่อนๆ
ในวงงานเดียวกัน
น่าจะมาจากความอิจฉาริษยา
จะทำอะไร อย่าหูเบา อย่าเชื่อหมดใจ ฟังได้
แต่จะเชื่อหรือไม่ อยู่ที่ตัวเรา
อย่างน้อย
ควรมีพ่อ หรือแม่
ผู้ใหญ่ที่ดูแลเรา ไปปรึกษาหารือท่าน
อยู่ตลอด เสมือนพวกเขาเป็นเกราะป้องกัน
(นึกถึงเรื่อง กัปตันอเมริกา ขำๆ )
ณ ที่นี้ขออธิบายเรื่องเกราะป้องกันกันซักนิด
ทำไมนักแสดงหลายคน แม้แต่ดิฉันเอง
จะต้องมีผู้จัดการส่วนตัว
หรือคนดูแลตารางงาน
เพราะนักแสดง ยิ่งหน้าใหม่
หรือผู้ที่อยู่ในฐานะติดต่องาน เป็นบุคคล
ใหม่ในวงการ ความเชื่อถือในการทำงาน
ระบบจัดการ และผลลัพธ์ของงาน
ที่จะมีผลต่อเรา
มันจะออกมาในทางใด
เราไม่อาจรู้ได้
พูดไม่เป็น ปฎิเสธไม่ได้ หรือกลัว
จะไม่เหมาะสม ก็ใช่ทั้งนั้น
ดิฉัน ณ ตอนนั้น โบ้ยให้ผู้จัดการ หรือพ่อแม่ตลอด
ถ้าในกรณีไม่มีต้นสังกัด ต้องระวัง
เพราะเราไม่รู้ ว่าเขามาดีมาร้าย
มันมีหลายรูปแบบที่แอบแฝงเข้ามา
เพราะงานของเรา มันเปิด เปิดเผย
ง่ายต่อคนเข้าถึงตัว
นี่คือเกราะป้องกัน
สุดท้าย ไม่ว่าใครจะพูดถึงเรา ในด้านไหน
อย่าลืมนำเคล็ดลับไปใช้กันบ้าง มันได้ผลดีทีเดียว
และกว่านั้น คุณต้องขอบคุณพวกเขา
ที่เกลียดคุณเหลือเกิน
คนว่ากล่าวเท็จ สร้างใส่ความ
ไม่ว่าจะด้วยรูปลักษณ์
หรือในผลงาน การกระทำของคุณ
เพราะพวกเขา
ทำให้ชีวิตของคุณ สมบูรณ์แบบ ยิ่งขึ้น
ยิ่งเราเจอสิ่งที่ทำให้เราท้อแท้ใจมาก
มันยิ่งทำให้เราได้เรียนรู้ตัวเอง
ที่จะสู้กับมันได้มากตามตัว
ชีวิตคือการเรียนรู้
ถ้าคุณไม่มีพวกเขา
คุณก็จะไม่เคยเรียนรู้ว่า การที่จะต้อง
เข็มแข็งมันเป็นอย่างไร
บทความตอนนี้ ขยายความมากขึ้น
ในเนื้อหาที่เป็นสิ่งเล็กน้อย
รายละเอียดที่หวังว่า
เพื่อนๆผู้อ่านที่เกี่ยวข้อง
หรือกำลังจะเกี่ยวข้อง
นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้
ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณที่ติดตาม
พบกันใหม่ ตอนหน้าค่ะ
พระเจ้าอวยพระพร
กับชีวิตที่คนทั่วๆไป
เรียกกันว่า "ดารา"
ตอนที่ 4
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆผู้รักการอ่านทุกคน
ความตอนที่แล้ว คงเข้าใจ
คำว่า " แก่นใน " กันไปบ้างแล้ว
อย่าลืมว่า ในทุกอาชีพงานย่อมมี
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังค้นหา
บทความตอนที่ 4 นี้ มีแรงบันดาลใจ
จากลูกศิษย์ลูกหา
ที่เธอ เพิ่งจะได้รับชัยชนะ
ก้าวข้ามความสำเร็จ
ในแวดวงบันเทิง มาอีกหนึ่งขั้น
มันมีสิ่งที่ค้างคาใจอยู่ไม่กี่อย่าง
เกี่ยวกับผลตอบรับ หรือ feedback ที่ส่งผล
ต่อความเข้มแข็งของจิตใจ
และความรู้สึกส่วนตัว
บางครั้ง ทำให้ดิฉันรู้สึกท้อ
พยายามสู้กับสิ่งเร้า
ที่ทำให้เรารู้สึกแย่
ตลอดการเดินทาง
บนเส้นทางบันเทิง
ประสบการณ์จริงและตรงของตัวเอง
มันเต้นรัวเหลือเกิน
ทนเก็บไว้ไม่ไหวแล้ว
จึงอยากจะนำออกมาร้อยเป็นถ้อยความ
ให้อ่านกัน ณ บัดนาว
อีกสิ่งหนึ่ง
ที่มันจะมาอยู่เป็นเพื่อน
ตลอดการเดินทางบนถนนสายนี้
นั่นคือ
การนินทา ในด้านลบ
ที่ไม่สร้างสรรค์
ไม่ว่าจะเป็น
การว่าร้าย
หมั่นใส้
อยากได้หน้า
อยากโชว์
อยากเด่น
อยากดัง
ประจบประแจง
ปากหวาน
ทำซื่อ
ทำใส
ทำเวอร์
กระแดะ
ดัดจริต
แอ๊บ
ไม่เห็นสวยตรงไหน
ไม่เห็นจะเก่ง
ฯลฯ
ความเป็นผู้ใหญ่ ประสบการณ์ผ่านพ้น
มันทำให้เราเห็นกระจ่างแจ้งขึ้นอีกกว่าเก่า
ว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา ในระบบวงจรชีวิตคนเรา
และมันทำให้เรียนรู้ว่า ไม่ใช่เฉพาะงานบน
เส้นทางบันเทิงเท่านั้น แต่มันมีในทุกสาขาอาชีพ
การอบรมเรื่องความสัมพันธ์องค์กร และ
การศึกษาเรียนรู้ เรื่อง Leadership หรือภาวะผู้นำ
ในรายละเอียด
มันทำให้เราสบายใจ
และปฏิบัติงานในหน้าที่
ได้อย่างมีความสุข
มากขึ้น กว่าแต่ก่อน
ช่วงที่ดิฉันมีผลงานในวงการบันเทิง
อย่าเพิ่งพูดถึง
เรื่องของ feedback ของคนไกลตัวเลยค่ะ
เอาคนใกล้ๆตัวก่อน
ส่วนมากจะเป็นผลบวก และจะมาเพิ่มพูล
กำลังใจของเราได้ดีทีเดียว
เช่น คนในครอบครัว
ญาติพี่น้อง ครู อาจารย์ เจ้านาย
เพื่อนสนิทรวมถึง
กลุ่มสังคมรอบข้างในชีวิตประจำวันที่เรา
เกี่ยวข้อง พบเจอกัน อยู่บ่อยๆ เป็นกลุ่มเล็ก
แบบเฉพาะ
ถ้าเป็นบุคคล ที่ใกล้ตัวเรา
เขาเตือน หรือพูดในทางลบ
ดิฉันจะนำคำกล่าวเหล่านั้น มาปรับปรุง
ตัวเองอย่างกระตือรือร้น
เพราะคิดอยู่เสมอ
ในความหวังดีที่จริงใจ
ของพวกเขามาตลอด
และไม่ใช่พวกที่หวังจะมาสนิท
คบหากับเรา หลังจากที่เราเป็นคนดัง
จะสังเกตุได้ง่ายทีเดียว
ซึ่งมีรายล้อมอยู่ทุกๆที่
เรื่องของอีโก้
ยิ่งทำงานในวงการบันเทิงนานๆ
จะได้รับแต่คำชม คำยอ คำหวาน
ทำให้อีโก้สูง โดยไม่รู้ตัว
ต้องระวัง บางครั้ง
ทำให้คุณไม่สนแม้แต่คำเตือน
ของคนใกล้ตัว
เมื่อก่อนทุกครั้งที่ดิฉันท้อแท้ในสายงาน
จากคำว่ากล่าวทั้งหลาย
สิ่งที่มาบำบัด และสร้างกำลังใจ
ได้ดีที่สุด
คือคนที่คุณไว้ใจมากที่สุด
ดิฉันเลือกที่จะมี
พ่อ กับแม่ เป็นอันดับแรก
ใครจะว่าอะไร ขอให้พ่อกับแม่ มองเราใน
ทางที่เหมาะที่ควร ที่สวย ที่เก่งไว้ก่อน
พวกเขา เป็นบุคคลใกล้ชิดแรก ที่จะให้วัคซีน
ป้องกันได้ดีกว่าทุกคนในโลกนี้
" ความสำเร็จของเรา
เราจะไม่ภูมิใจไปกว่า
บุคคลที่อยู่ในฐานะ
บิดา มารดา
หรือ ครูอาจารย์ที่พร่ำสอน "
ขอให้จำไว้
ดิฉันอยู่ในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว
แม้ในระยะเวลาไม่นานนัก เมื่อเทียบกับ
ดารานักแสดงรุ่นเดียวกัน
พวกเขาเหล่านั้น โด่งดัง และมีชื่อเสียง
อย่างต่อเนื่อง
เคล็ดลับที่ทำให้พวกเขายืนหยัด
และเข็มแข็งอยู่ได้ในอาชีพนี้
คือขอให้พ่อ แม่ คนใกล้ชิดเราเข้าใจ
ในความเป็นเรา และในสิ่งที่เรา
ตั้งใจทำ ก็เพียงพอ
ให้มองใหม่ว่า เรา อยู่ในอาชีพที่เปิดเผย
เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นคนเบื้องหน้า จึงมีอะไร
ให้พูดถึง กล่าวถึง
ในผู้คนหมู่มาก เป็นธรรมดา
วงการนี้จะเจอหนักกว่านั้นคือ
บางครั้ง เจอการสร้างเรื่องราว
กล่าวความเท็จ
เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์
สื่อนิตยสารบันเทิงแทบทุกเล่ม
ทำให้คนอ่านก็ว่ากันไปตามเนื้อที่เห็น
ต่างๆนาๆ
ช่างเศร้าใจนัก กับสิ่งที่เราไม่ได้ทำ
" มันไม่ได้เป็นอย่างที่เขียนนะ"
" มันไม่ใช่อย่างที่เข้าใจกันนะ "
อธิบายให้เราสบายใจได้ก็แต่คนใกล้ตัว
ส่วนคนที่เป็นแฟนละคร ผู้รับสารหล่ะ
" เรารู้สึกอึดอัดจัง
จะทำยังไงให้พวกเขาเข้าใจดีหล่ะ "
สังเกตุกันมั้ยคะ บางครั้ง ถ้าถึงขั้นรุนแรง
ลุกล้ำสิทธิส่วนตัว ก็ออกมาแถลงข่าว
ขอโทษ ขอโพยกันไป มีให้เห็นบ่อยๆ
นี่ถือเป็นธรรมเนียมของวงการบันเทิงอีก
อย่างไปเลย
อีกสิ่งที่ต้องระวัง เรื่องของการยุแยง
จากคนสนิทใหม่ ซึ่งจะเป็นเพื่อนๆ
ในวงงานเดียวกัน
น่าจะมาจากความอิจฉาริษยา
จะทำอะไร อย่าหูเบา อย่าเชื่อหมดใจ ฟังได้
แต่จะเชื่อหรือไม่ อยู่ที่ตัวเรา
อย่างน้อย
ควรมีพ่อ หรือแม่
ผู้ใหญ่ที่ดูแลเรา ไปปรึกษาหารือท่าน
อยู่ตลอด เสมือนพวกเขาเป็นเกราะป้องกัน
(นึกถึงเรื่อง กัปตันอเมริกา ขำๆ )
ณ ที่นี้ขออธิบายเรื่องเกราะป้องกันกันซักนิด
ทำไมนักแสดงหลายคน แม้แต่ดิฉันเอง
จะต้องมีผู้จัดการส่วนตัว
หรือคนดูแลตารางงาน
เพราะนักแสดง ยิ่งหน้าใหม่
หรือผู้ที่อยู่ในฐานะติดต่องาน เป็นบุคคล
ใหม่ในวงการ ความเชื่อถือในการทำงาน
ระบบจัดการ และผลลัพธ์ของงาน
ที่จะมีผลต่อเรา
มันจะออกมาในทางใด
เราไม่อาจรู้ได้
พูดไม่เป็น ปฎิเสธไม่ได้ หรือกลัว
จะไม่เหมาะสม ก็ใช่ทั้งนั้น
ดิฉัน ณ ตอนนั้น โบ้ยให้ผู้จัดการ หรือพ่อแม่ตลอด
ถ้าในกรณีไม่มีต้นสังกัด ต้องระวัง
เพราะเราไม่รู้ ว่าเขามาดีมาร้าย
มันมีหลายรูปแบบที่แอบแฝงเข้ามา
เพราะงานของเรา มันเปิด เปิดเผย
ง่ายต่อคนเข้าถึงตัว
นี่คือเกราะป้องกัน
สุดท้าย ไม่ว่าใครจะพูดถึงเรา ในด้านไหน
อย่าลืมนำเคล็ดลับไปใช้กันบ้าง มันได้ผลดีทีเดียว
และกว่านั้น คุณต้องขอบคุณพวกเขา
ที่เกลียดคุณเหลือเกิน
คนว่ากล่าวเท็จ สร้างใส่ความ
ไม่ว่าจะด้วยรูปลักษณ์
หรือในผลงาน การกระทำของคุณ
เพราะพวกเขา
ทำให้ชีวิตของคุณ สมบูรณ์แบบ ยิ่งขึ้น
ยิ่งเราเจอสิ่งที่ทำให้เราท้อแท้ใจมาก
มันยิ่งทำให้เราได้เรียนรู้ตัวเอง
ที่จะสู้กับมันได้มากตามตัว
ชีวิตคือการเรียนรู้
ถ้าคุณไม่มีพวกเขา
คุณก็จะไม่เคยเรียนรู้ว่า การที่จะต้อง
เข็มแข็งมันเป็นอย่างไร
บทความตอนนี้ ขยายความมากขึ้น
ในเนื้อหาที่เป็นสิ่งเล็กน้อย
รายละเอียดที่หวังว่า
เพื่อนๆผู้อ่านที่เกี่ยวข้อง
หรือกำลังจะเกี่ยวข้อง
นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้
ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณที่ติดตาม
พบกันใหม่ ตอนหน้าค่ะ
พระเจ้าอวยพระพร
ความคิดเห็น