มุมมองแนวคิดใหม่
กับวีถีสื่อ ในอนาคต
ที่คุณ ยากที่จะควบคุม
ปรัชญาการดำเนินชีวิต
คำคมจากนักเขียน
ประโยคของนักปราชญ์
มาแชร์ให้อ่านกัน
มันได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพราะมันมาไว ในโลกของการสื่อสารยุคใหม่
เปิดประตูให้เขาเห็นทาง
เสี่ยง..
เสี่ยง..
เสี่ยง..
ส่งข้อมูลให้เป็น หาทางให้เด็กรับมันได้ไว
การรับสาร เป็นสิ่งดี หรือไม่ควรนั้น
ควรได้รับ ในทางแห่งการพัฒนา
บทนำหนังสือเล่มหนึ่่ง
ของ Stephen R.Covey
ได้ขยายความไว้ชัดว่า
สิ่งที่เขาได้เขียนแนะ
แนวทางที่ได้รับการสังเคราะห์
จากประสบการณ์ของเขา
มาเป็นตัวหนังสือนี้
มันจะยังใช้ได้ผลในอนาคต
สิบปี ยี่สิบปี ร้อยปีข้างหน้า
สิบปี ยี่สิบปี ร้อยปีข้างหน้า
ได้หรือไม่
เขาได้ตอบว่า
" ยิ่งการเปลี่ยนแปลงมีขนาดใหญ่ขึ้น
ปัญหาท้าทายสาหัสมากขึ้น
หลักการของเขา ก็จะยิ่งทวีความสำคัญ
เป็นเงาตามตัว "
ปัญหาท้าทายสาหัสมากขึ้น
หลักการของเขา ก็จะยิ่งทวีความสำคัญ
เป็นเงาตามตัว "
จากที่ได้อ่านผ่านตา
และจำความใน ของมันได้
สิ่งที่เห็น ในโลกไซเบอร์
โดยเฉพาะ Facebook
มันคือเรื่องจริงที่ปรากฎ
ชัดขึ้นทุกวัน
สังเกตุกันไหมคะ
ว่าเพื่อนๆของคุณ
จะมี
คำสอน ตามหลักการ
ในแต่ละศาสนา
คำสอน ตามหลักการ
ในแต่ละศาสนา
ปรัชญาการดำเนินชีวิต
คำคมจากนักเขียน
ประโยคของนักปราชญ์
มาแชร์ให้อ่านกัน
นานวันก็ยิ่งมีมากขึ้น
เรื่อยๆ
ซึ่งต่างกับเมื่อก่อน
ทีเข้าใช้ในการ
ติดต่อสื่อสารคนไกล และแชร์
ความเคลื่อนไหวของตัวเอง
ให้กับเพื่อนของคุณในแบบที่เป็นส่วนตัว
นี่ถือเป็นจุดประสงค์หลักแรก
รองลงมา คงแล้วแต่เหตุผล
ของแต่ละคนที่ต่างไป
ของแต่ละคนที่ต่างไป
สังคมออนไลน์
เป็นสังคมที่เราได้เรียนรู้ร่วมกัน
มีแรงจูงใจที่เร้นลับ
ในวิธีการนำเสนอ
แบ่งปันมากขึ้นกว่าแต่เก่า
การพัฒนาของสังคมโลก
วิวัฒนาการ
การติดต่อสื่อสาร ที่ไม่หยุดยั้ง
การติดต่อสื่อสาร ที่ไม่หยุดยั้ง
ทำให้เห็นถึงความเสื่อมโทรม
และถดถอยไปในเวลาเดียวกัน
หลายคนทำตัวฉวยโอกาส
ก้าวล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัว
และแอบแฝงผลประโยชน์
ไม่ให้เกียรติสถาบัน ชาติ
ศาสนา หรือเรื่องอื่นใดที่เป็น
ความก้าวร้าว ในวิถีการดำรงชีพ
มากขึ้น มากขึ้น และมากในทุกๆวัน
จริงๆแล้ว
คงมีมานาน แต่ไม่มีใครรู้
ผลของมัน ต่อสาธารณะชน
ที่รับได้กว้างขึ้น
ได้อย่างในปัจจุบัน
หลายคนทำตัวฉวยโอกาส
ก้าวล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัว
และแอบแฝงผลประโยชน์
ไม่ให้เกียรติสถาบัน ชาติ
ศาสนา หรือเรื่องอื่นใดที่เป็น
ความก้าวร้าว ในวิถีการดำรงชีพ
มากขึ้น มากขึ้น และมากในทุกๆวัน
จริงๆแล้ว
คงมีมานาน แต่ไม่มีใครรู้
ผลของมัน ต่อสาธารณะชน
ที่รับได้กว้างขึ้น
ได้อย่างในปัจจุบัน
มันได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ยิ่งกว่านั้น ดิฉันเป็นห่วงเยาวชน
ที่ขาดการแนะนำ และได้รับการ
ดูแล ตามสภาพเวลาอันจำกัด
ของผู้ใหญ่ ในสภาวะการทำงาน
ของทุกวันนี้เป็นอันมาก
ยิ่งเด็กเล็กๆในปกครองของคุณเอง
พวกเขาจะเติบโตขึ้นได้
อย่างมีประสิทธิภาพ
คงจักต้องมี ความเป็น
มนุษย์ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
และตื่นตัวมากขึ้น
เมื่อเทียบกับสมัยพี่ป้า น้าอา
(ปู่ย่าตาทวด ช่องว่างของวิวัฒนาการคงมากไป)
ต้องยอมรับว่าสังคมไทย
วัฒนธรรมไทย เป็นสังคมเฉพาะ
การดำรงชีวิตที่ยึดหลักความเป็นไทย
มันฝังลึกในจิตสำนึกพื้นฐาน
ทำให้ใครหลายๆคน
คงยังปิดกั้น การรับรู้
ในวิถีทางสื่อ แม้ต่อคนในปกครอง
คนในปกครองในที่นี้้ อาจเป็น
ลูกหลานของคุณ บางคนมีครอบครัวที่ยัง
ต้องรับผิดชอบพี่สาว น้องชาย
ลูกศิษย์ เด็กในสังกัดงาน
พนักงาน ลูกน้อง ฯ
รวมเรียกกันได้อีกแบบว่า
บริวารของคุณนั่นเอง
ตัวดิฉันเอง มีการพูดคุยกับคนที่รู้จัก
เป็นคนไทยด้วยกัน หรือชาวเอเซีย
แดนอาทิตย์อุทัย
แดนอาทิตย์อุทัย
ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้
หรือในระยะหลังๆ มา
พวกเขาเสนอความคิดของตัวเอง
ตามทัศนคติที่แตกต่าง จากการรับเดิม
บ้างก็เปิดใจกว้าง กับเรื่องนี้
บ้างก็ยังกล้าๆกึ่งๆ
ญาติวัยเด็ก
ทางความสัมพันธ์เกี่ยวโยงเก่า
ที่กำลังจะพัฒนา
นำอายุเดินเข้าสู่ สภาพของวัยรุ่น
เป็นบุคคลที่น่าเห็นใจ และน่าสงสารค่ะ
โดนอำนาจปกครองจากผู้ใหญ่
ที่มีเวลาให้แต่กับงาน และสังคมงาน
ปิดกั้นจากโลก Internet
ปิดกั้น การติดต่อสื่อสารตามกระแสนิยม
โดยให้เหตุผลว่า กลัวเด็กจะได้รับ
ข้อมูลผิด บิดเบือน และส่งผล
ให้เด็กใจแตก เสียคน หมกมุ่น
ในกรณีที่
ดีขึ้นมาหน่อย
ให้เด็กเรียนรู้ และเล่นได้เฉพาะ
ในห้องเรียนของวิชาคอมฯ
หรือต่อหน้า เท่านั้น
นั่นไม่พอ
ในฐานะที่เขาคนนั้น เป็นบุคคลไม่มีเวลาต่อครอบครัว
ในฐานะที่เขาคนนั้น เป็นบุคคลไม่มีเวลาต่อครอบครัว
อำนาจการปกครอง ของเขา
มันกำหนดส่งผล ไปถึงหลายๆคน
และบริวารที่อยู่ร่วมกัน
ยิ่งชี้แนะ ส่งเสริม สนับสนุน
คิดกันไปในทางที่เห็นแต่ผลร้าย
โดยไม่ไตร่ตรองถึงประโยชน์
และผลดีกันซักนิด
" แหมสมัยนั้น คอมฯ ยังไม่มี
ก็ทำไม่เป็น "
" อยู่หน้าคอมฯแล้วปวดหัว
เป็นเรื่องยุ่งยาก
ไม่เอา "
กลัวเสียหน้า
อายเด็กมัน
ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งของ
คนรุ่นเก่า
พูดขึ้นมานึกถึงคุณหมอขึ้เก๊ก
ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง
ย่านสุขุมวิท ระบบการทำงาน บันทึก
ข้อมูล ผ่านด้วยตัวคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น
(อุ๊บไว้ก่อน เดี๋ยวนอกเรื่อง)
หลายประเทศในแถมยุโรป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในฝรั่งเศส ดิฉันได้พาตัวเอง
มาเรียนรู้ ถึงวิถีการดำรงชีวิต
และวัฒธรรมการศึกษา
มีโอกาส ได้เห็นชัดขึ้น
เขาก็เป็นเหมือนเรา แต่การศึกษาเขา มี
การเข้าถึงได้มากกว่าเรามานาน
และต่างวิธีการ
ในกระบวนการเรียนรู้
การปิดกั้น โดยไม่มีการอธิบาย
ในสิ่งที่ควรเป็น บิดเบือน
ความจริงของตัวเอง โดยที่นำผล
ของมัน มาให้เด็กในปกครองรับไปเต็มๆ
มันไม่ใช่ทางแก้ปัญหาในระยะยาว
คุณยิ่งปิดกัน เด็กยิ่งเสี่ยงต่อการรับสาร
ในโลกอนาคต
คุณยิ่งปิดกัน เด็กยิ่งอยากรู้อยากเห็น
คุณยิ่งปิดกัน เด็กยิ่งอยากรู้อยากเห็น
สังคมที่เปิดเผย
ไม่ได้หมายความว่า
เบื้องหลังความเป็นมานั้นเลวร้าย
ไม่น่าเอาเป็นแบบอย่าง
ใช่...แต่ก็ไม่ทุกอย่าง...
ทุกอย่าง....แต่ก็ไม่เชิง
เพียงแต่เป็นสังคมที่ยอมรับความจริง
แบบตรงๆกันอยากแรง
แต่สิ่งเหล่านี้ ผลการกระทำเหล่านั้น
ในฐานะนักปกครอง (ลูกหลานฯ)
ควรที่จะปรับมุมมองใหม่
ลบล้างทัศนคติเดิมออกไปบ้าง
ทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา
ของวัฒนธรรมที่แตกต่าง
ฉลาดในการรับรู้ และเลือกที่จะนำมาใช้
ให้เป็น
แต่มันอาจจะไม่ธรรมดา และอันตรายต่อ
การรับรู้ของพวกเขา ถ้าผู้ใหญ่ไม่เคย
การรับรู้ของพวกเขา ถ้าผู้ใหญ่ไม่เคย
ให้คำแนะนำ
ภาพการแต่งตัวที่ผิดแปลก
หรือไม่ควร คงไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไป
เพราะมันมาไว ในโลกของการสื่อสารยุคใหม่
คุณทำได้ เพียงแค่ เปลี่ยนทัศนคติ
ของเขาไปในทิศทาง ที่พัฒนา
และชี้ให้เห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติ
โดยหาวัตถุประสงค์หลักของสิ่งเหล่านั้นให้เจอ
ความตั้งใจในการส่งสารของสิ่งเหล่านั้น มัน
มาทางดีก็ว่าดี มาทางเสื่อมเสีย ก็ไม่ควรเอาอย่าง
ถ้อยคำวาจาที่ไม่สุภาพ คงหลีกเลี่ยง
ไม่ให้เด็กอ่าน ก็คงไม่ได้ เพราะ
ความอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมชาติของเขา
และโลกแห่งการเข้าถึงมันมาเร็วเหลือเกิน
และโลกแห่งการเข้าถึงมันมาเร็วเหลือเกิน
คำพูด การกระทำ
และการนำเสนอนั้น
มันมีข้อดีอยู่มากพอ
แต่ก็มีสิ่งที่ไม่สมควร
ตามกันมาอย่างสูสี
การปกครองเด็ก ในยุคการสื่อสารปัจจุบัน
ควรให้เด็กฉลาดในการรับรู้
ให้ความรู้ในสิ่งใหม่
และเราเคยได้รับการปิดกันมา ให้มากขึ้น
และเราเคยได้รับการปิดกันมา ให้มากขึ้น
มากกว่าเดิม เร็วกว่าเดิม
เปิดประตูให้เขาเห็นทาง
ให้เขาเลือกเดินทางที่ควรเป็น
แต่อย่าบอกทางให้เขาเดิน
มันเสี่ยง..
ต่ออนาคต ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ทุกเวลา
เสี่ยง..
ที่จะพาตน เป็นต้นแบบ หรือตัวอย่างที่ไม่ควร
โดนสังคมว่าประนาม กล่าวว่า
โดนสังคมว่าประนาม กล่าวว่า
เสี่ยง..
ที่ประสบความสำเร็จในทางผิดกฎหมาย
เสี่ยง..
ต่อปริมาณปัญหาสังคมที่เพิ่มขึ้น
เพียงแค่คุณมองข้ามและละเลย
กรณีตัวอย่าง...
ทำไมรายการทีวี
ทำไมรายการทีวี
ถึงได้มีคำเตือนกล่าวไว้ ในต่างสถานะอายุการรับชม
เพราะบางครั้งเด็กยังเข้าใจในคำเตือน
ได้ดีกว่าผู้ใหญ่บางคน
ปัญหามันอยู่ที่ผู้ใหญ่เหล่านั้น ปล่อยให้เด็กดู
และสุดท้ายก็ไปโทษสื่อ เนื้อหาการส่งสาร
แต่สื่่อออนไลน์
คงไม่มีคำเตือนเหล่านั้นในทุกหน้าการค้นหา
สุดท้าย
สิ่งที่ฝากไว้ ในรายละเอียดโดยรวม
คือ
คือ
เปิดใจกว้างให้มากขึ้น (กับสังคมสื่อสารในปัจจุบัน)
คิดปิดกั้นให้น้อยลง(จากการเลี้ยงดูเก่า เดิมในอดีต)
เปลี่ยนทัศนะคติในการรับรู้ใหม่(ให้มีผลบวกและสวยงาม)
คิดปิดกั้นให้น้อยลง(จากการเลี้ยงดูเก่า เดิมในอดีต)
เปลี่ยนทัศนะคติในการรับรู้ใหม่(ให้มีผลบวกและสวยงาม)
ส่งข้อมูลให้เป็น หาทางให้เด็กรับมันได้ไว
การรับสาร เป็นสิ่งดี หรือไม่ควรนั้น
ควรได้รับ ในทางแห่งการพัฒนา
ในโลกสังคมออนไลน์
ขอพระเจ้าอวยพร
ขอพระเจ้าอวยพร
ความคิดเห็น