กฎต่างถิ่น กติกาสังคม ต่างแดน
(เป็นอะไรที่แปลก แต่ลงตัว)
เนื้อหาอาจต่อเนื่องมาจากบทความ
ตอน "วันหนึ่ง ของการอบรม ณ กรุงปารีส "
ดิฉันนำภาพถ่าย และแผ่นกระดาษ
เต็มไปด้วยตัวโน๊ตและความสงสัย
มานั่งอ่าน และแปล ทบทวนไปพลางๆ
สิ่งหนึ่งที่อยากให้เพื่อนผู้อ่าน
เห็นจุดที่ต่างไป ในเนื้อหา ของตัวกฎหมาย
ที่ต่างจากประเทศบ้านเกิด
" อะไรกัน มีอย่างนี้ด้วยหรือ !! "
เป็นคำอุทาน และคำพูด ที่หลุดออกจากปาก
บ่อยที่สุด ในการรับรู้ ของการอบรม ในวันนั้น
กฎหมายส่วนใหญ่ ในวันนั้น
จะมีผลเข้าใจโดยตรง
ต่อชาวต่างชาติ ของที่นี่
ดิฉันคงไม่สามารถอธิบาย
ให้เห็นหมดทุกขั้นตอน
เพียงแต่บางกรณีตัวอย่างเท่านั้น
ตัวอย่างแรกที่แปลก
(จากความรู้เดิมของตัวเอง
และเหมือนเป็นเด็กใหม่ )
@ ประเทศนี้มีศาสนารวมทั้งหมด
26 ศาสนา มีอิสระในการนับถือ และ
เลือกที่จะเป็น ไม่มีกฎใดห้ามคับ
หรือไม่อยากมีศาสนาเลย
ก็เรื่องของคุณ
แต่ถ้าคุณไปโรงเรียน สถานศึกษา
เรียนหนังสือ เข้าชั้นเรียน
แม้ในระดับ มหาวิทยาลัย
...คุณจะโชว์ความเป็นศาสนาของคุณออกมาไม่ได้
เช่น
กรณีคริสเตียน ก็ห้ามโชว์สัญลักษณ์ไม้กางเขน
กรณีพุทธศานิกชน ก็ห้ามแขวนจี้พระไว้ด้านนอก
กรณีมุสลิม ห้ามคลุมผ้าปิดหน้าปิดตา
จบ
(เท่าที่ทราบมา )
เมื่อก่อนคงไม่มี แต่ด้วย
ปัญหา และเหตุหลายอย่างเกิด
ผู้คนต่างก้าวล้ำสิทธิส่วนบุคคล
มากขึ้น ไม่มี ไม่ได้แล้ว(กระมัง)
ตัวอย่างที่สอง
@เป็นประเทศที่มีความเป็นอิสระ
เสรีภาพ
แต่อิสระเสรีภาพ ต้องเกิดมี ภายใต้กฎหมาย
...คือ คุณมีอิสระในตัวคุณ
แต่ถ้าอิสระในการกระทำใดๆ
ส่งผลรบกวนผู้อื่น ถือว่า
คุณทำผิดกฎหมาย
หรือจะยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็น
จากวิถีชีวิตในไทยได้อีกข้อ
..." มะม่วง แตงโม ผักสดๆ ผลไม้ มาแล้วครับ "
เสียงประกาศจากรถขายผักผลไม้
ซึ่งได้ยินทุกวัน หลัง 4 ทุ่ม ที่ซอยสุขุมวิท 24
" ไม้กวาดครับ ไม้กวาด ไม้กวาดอย่างดี
ไม้กวาดสุโขทัย ไม้ขนไก่เราก็มี ไม้กวาดครับ "
เช่นเคย ในช่วงเช้าๆ ของทุกวัน
บริเวณถนนสุขุมวิท ใครอยู่แถวนั้น คงรู้จักดี
....ที่นี่คุณมีสุนัขเสียงดัง
ลูกเล็กๆร้อง สามีภรรยาทะเลาะกัน
เพื่อนบ้านรำคาญ มีสิทธิเรียกตำรวจ
มาเจรจาจัดการได้ทันที ในฐานะ " ส่งเสียงรบกวน "
... คุณเปิดเพลงเสียงดัง หรือทำเสียงอันใด
อยู่บ่อยครั้ง แม้มีตำรวจมาเจรจา ไม่ปรับปรุง
กฎหมายที่นี่ มีสิทธิ์ให้คุณย้ายออกทันที
เช่นกัน
บางประเทศ ถ้าคุณโหวกเหวก โวยวาย
ทำเสียงดังก่อกวนผู้อื่น คุณโดนตำรวจจับแน่
นั่นเป็นประเทศเขา และเหมือนกันในหลายประเทศ
แต่ปัจจุบัน ภาพที่คุณเห็นบางส่วน และจะกลายเป็น
ภาพส่วนมากในอนาคต นั่นคือ เมื่อพวกเขาได้มา
ที่นี่ เขาก็คิดแต่ว่า ประเทศนี้คือ Freedom อิสระเสรี
ก็เลยพูดกันเสียงดัง ก่อกวนผู้อื่น ถือเป็นเรื่องธรรมดา
หรืออีกใน คือได้ปลดปล่อยจากความเก็บกดเดิมเก่า
เพราะพวกเขาไม่ได้รับการอบรมอย่างเข้าใจ
และเพิ่งจะมีไม่กี่ปีมานี้เองที่ให้ความสำคัญ
กับการอบรมนี้อย่างจริงจัง
พอเพื่อนๆในคลาสนี้
มีการพูดคุยกันเรื่องภาษี
ดิฉันก็เห็นว่าบางอย่าง
มันก็ขัดกับความยุติธรรมในชีวิตจริงอยู่บ้าง
ได้แต่ เห็นด้วยแต่เพียงส่วนตัว เราก็ไม่มีอำนาจ
เปลี่ยนแปลง หรือทำให้มันออกมาในแบบฉบับ
ที่เราต้องการได้ เห็นจะไม่ได้ซักวิธีการเดียว
ตราบใดที่เราใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
พยายามมองอีกด้าน สิ่งที่ดีๆก็มีเยอะ
สวัสดิการรอบด้าน
ความคุ้มครองที่เข็มแน่น
ก็คิดแต่ในทางที่ดีมากๆแล้วกัน
ถ้าคุณมองในทางลบ ก็เห็นอะไรมากมาย
ซึ่งไม่ได้ปิดกันความเป็นจริง
แล้วแต่มุมและการมอง
ประเทศไทยเราเอง ถ้ามีการจัดอบรม
แบบนี้สำหรับชาวต่างชาติ หรือต่างด้าวบ้าง
ก็คงดี (ไม่ทราบว่าดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนบ้าง
ในปัจจุบัน )
วัฒนธรรมต่างถิ่น กฎหมายต่างเมือง
ถ้าสร้างความเข้าใจพื้นฐานอย่างละเอียดอ่อน
มันเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต
และการอาศัยร่วมกันได้ดีขึ้น มากโขอยู่
เผอิญเมื่อสองวันก่อนประจวบเข้ามา
ระหว่างฉบับร่าง ของบทความนี้
ได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนที่ทำกิจการร้านอาหาร
ที่นี่ก็ไม่ง่ายอย่างที่ใครหลายๆคนคิด
กฎเขามีตายตัว และค่อยข้างให้เป๊ะกันทีเดียว
เท่าที่คุยกันมา ขนาดร้านของคุณ
ใหญ่มากเล็ก
....ต้องมีห้องสุขาให้แขก
ถ้าใหญ่ตามอัตราที่ระบุไว้ ต้องมีห้องสุขา
สำหรับคนพิการด้วย
...ประตูส่งอาหาร ต้องไม่ใช้ประตูเดียวกัน
กับประตูที่ต้องนำจานชามเข้าไปเก็บ
จากลูกค้าที่ทานเสร็จแล้ว
...ต้องดูวัตถุประสงค์ ว่าคุณเป็นร้านอาหาร
ประเภทใด เวลาการเปิด- ปิด ก็ต่างกัน
ภาษีที่จ่ายก็ต่างกัน
และอะไรๆ หลายอย่างที่ต่างจากบ้านเรา
นั้น ยังมีอีกมาก
ทำให้เห็นว่า
พื้นฐานแรก
ทำไม เราต้องรู้กฎหมายต่างถิ่น
ประเทศที่เราพำนักอยู่
การดำรงชีวิตขั้นพื้นฐาน
เราไม่รู้ว่าสิ่งแวดล้อม
อะไรเปลี่ยนแปลงไปทางไหน
การลงทุนจะทำธุรกิจใดๆก็ตาม
ก็มีระบุเป็นกรณีๆ แตกต่างกันไป
ถ้าคุณขาดความรู้ ความเอาใจใส่
ที่จะศึกษามันให้ละเอียด
ความเสียรู้ เสียเปรียบ มันจะมาเยือน
อีกเรื่อง เพิ่งไม่กีวันมานี้
ที่เรียนรู้ และเข้าใจมา และน่าสนใจ
เรื่องกฎหมายแรงงาน เจ้านาย -ลูกจ้าง
ที่นี่แรง หนัก เข้ม จัดจ้าน
มีความน่าสนใจ ในผลรับ
แม้ในขณะคุณทำงาน
และลางาน
การหยุดพักงาน
การลาออก
การขาดงาน
การเพิ่มงาน
ฯลฯ
ทุกอย่าง มีผลต่อรายได้
และความเป็นอยู่ของครอบครัวคุณ
ถ้าคุณศึกษารายละเอียดให้ดี
คุณจะไม่โดนเอารัดเอาเปรียบ
และทำให้คุณรู้ว่า สิทธิ์ใดบ้าง
ที่คุณควรได้
หรือจะเป็นเรื่องของการ
มาศึกษาที่คุณมีสถานะเป็นนักศึกษา
มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ที่คุณต้องเข้าใจกฎหมาย
และวัฒนธรรม มีผลต่อการ
พัฒนาความสามารถ
ศักยภาพ การเรียนรู้ของคุณ
ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่น่าสนใจ
ขอให้คนไทยเราด้วยกัน
ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ขอให้อยู่เข้าใจ
ในความฉลาดของสังคม และกฎต่างเมือง
มีอะไรๆน่าสนใจ อีกมากในหลายๆเรื่องราว
ที่ต่างไป ของการดำรงชีวิตอยู่ที่นี่
ขอเวลาเรียนรู้และศึกษาให้กระจ่าง
แน่นอน เจอสิ่งใดที่เป็นประโยชน์
หรือความรู้ใหม่ๆ ที่แปลก ต่าง
จะนำมาเก็บไว้ในความทรงจำผ่านตัวหนังสือ
และเพื่อนๆผู้อ่าน ก็สามารถแชร์ความทรงจำ
ไปกับเป็นศูนย์ได้ ในทุกๆบทความ
ดิฉันภูมิใจกับเพื่อนๆคนไทยด้วยกัน
ที่ได้มาพบเจอ สานสัมพันธ์กันที่นี่
พวกเขามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
มากมายกว่าดิฉันนัก
แต่จะมีซักกี่คน ที่ยังไม่รู้อะไรเลย
ขอจงเริ่ม และศึกษาเรียนรู้ไปด้วยกัน
และหวังว่าคุณ ไม่ใช่ "ใครซักกี่คนนั้น "
โชคดีทุกคน
พระเจ้าอวยพร
(เป็นอะไรที่แปลก แต่ลงตัว)
เนื้อหาอาจต่อเนื่องมาจากบทความ
ตอน "วันหนึ่ง ของการอบรม ณ กรุงปารีส "
ดิฉันนำภาพถ่าย และแผ่นกระดาษ
เต็มไปด้วยตัวโน๊ตและความสงสัย
มานั่งอ่าน และแปล ทบทวนไปพลางๆ
สิ่งหนึ่งที่อยากให้เพื่อนผู้อ่าน
เห็นจุดที่ต่างไป ในเนื้อหา ของตัวกฎหมาย
ที่ต่างจากประเทศบ้านเกิด
" อะไรกัน มีอย่างนี้ด้วยหรือ !! "
เป็นคำอุทาน และคำพูด ที่หลุดออกจากปาก
บ่อยที่สุด ในการรับรู้ ของการอบรม ในวันนั้น
กฎหมายส่วนใหญ่ ในวันนั้น
จะมีผลเข้าใจโดยตรง
ต่อชาวต่างชาติ ของที่นี่
ดิฉันคงไม่สามารถอธิบาย
ให้เห็นหมดทุกขั้นตอน
เพียงแต่บางกรณีตัวอย่างเท่านั้น
ตัวอย่างแรกที่แปลก
(จากความรู้เดิมของตัวเอง
และเหมือนเป็นเด็กใหม่ )
@ ประเทศนี้มีศาสนารวมทั้งหมด
26 ศาสนา มีอิสระในการนับถือ และ
เลือกที่จะเป็น ไม่มีกฎใดห้ามคับ
หรือไม่อยากมีศาสนาเลย
ก็เรื่องของคุณ
แต่ถ้าคุณไปโรงเรียน สถานศึกษา
เรียนหนังสือ เข้าชั้นเรียน
แม้ในระดับ มหาวิทยาลัย
...คุณจะโชว์ความเป็นศาสนาของคุณออกมาไม่ได้
เช่น
กรณีคริสเตียน ก็ห้ามโชว์สัญลักษณ์ไม้กางเขน
กรณีพุทธศานิกชน ก็ห้ามแขวนจี้พระไว้ด้านนอก
กรณีมุสลิม ห้ามคลุมผ้าปิดหน้าปิดตา
จบ
(เท่าที่ทราบมา )
เมื่อก่อนคงไม่มี แต่ด้วย
ปัญหา และเหตุหลายอย่างเกิด
ผู้คนต่างก้าวล้ำสิทธิส่วนบุคคล
มากขึ้น ไม่มี ไม่ได้แล้ว(กระมัง)
ตัวอย่างที่สอง
@เป็นประเทศที่มีความเป็นอิสระ
เสรีภาพ
แต่อิสระเสรีภาพ ต้องเกิดมี ภายใต้กฎหมาย
...คือ คุณมีอิสระในตัวคุณ
แต่ถ้าอิสระในการกระทำใดๆ
ส่งผลรบกวนผู้อื่น ถือว่า
คุณทำผิดกฎหมาย
หรือจะยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็น
จากวิถีชีวิตในไทยได้อีกข้อ
..." มะม่วง แตงโม ผักสดๆ ผลไม้ มาแล้วครับ "
เสียงประกาศจากรถขายผักผลไม้
ซึ่งได้ยินทุกวัน หลัง 4 ทุ่ม ที่ซอยสุขุมวิท 24
" ไม้กวาดครับ ไม้กวาด ไม้กวาดอย่างดี
ไม้กวาดสุโขทัย ไม้ขนไก่เราก็มี ไม้กวาดครับ "
เช่นเคย ในช่วงเช้าๆ ของทุกวัน
บริเวณถนนสุขุมวิท ใครอยู่แถวนั้น คงรู้จักดี
....ที่นี่คุณมีสุนัขเสียงดัง
ลูกเล็กๆร้อง สามีภรรยาทะเลาะกัน
เพื่อนบ้านรำคาญ มีสิทธิเรียกตำรวจ
มาเจรจาจัดการได้ทันที ในฐานะ " ส่งเสียงรบกวน "
... คุณเปิดเพลงเสียงดัง หรือทำเสียงอันใด
อยู่บ่อยครั้ง แม้มีตำรวจมาเจรจา ไม่ปรับปรุง
กฎหมายที่นี่ มีสิทธิ์ให้คุณย้ายออกทันที
เช่นกัน
บางประเทศ ถ้าคุณโหวกเหวก โวยวาย
ทำเสียงดังก่อกวนผู้อื่น คุณโดนตำรวจจับแน่
นั่นเป็นประเทศเขา และเหมือนกันในหลายประเทศ
แต่ปัจจุบัน ภาพที่คุณเห็นบางส่วน และจะกลายเป็น
ภาพส่วนมากในอนาคต นั่นคือ เมื่อพวกเขาได้มา
ที่นี่ เขาก็คิดแต่ว่า ประเทศนี้คือ Freedom อิสระเสรี
ก็เลยพูดกันเสียงดัง ก่อกวนผู้อื่น ถือเป็นเรื่องธรรมดา
หรืออีกใน คือได้ปลดปล่อยจากความเก็บกดเดิมเก่า
เพราะพวกเขาไม่ได้รับการอบรมอย่างเข้าใจ
และเพิ่งจะมีไม่กี่ปีมานี้เองที่ให้ความสำคัญ
กับการอบรมนี้อย่างจริงจัง
พอเพื่อนๆในคลาสนี้
มีการพูดคุยกันเรื่องภาษี
ดิฉันก็เห็นว่าบางอย่าง
มันก็ขัดกับความยุติธรรมในชีวิตจริงอยู่บ้าง
ได้แต่ เห็นด้วยแต่เพียงส่วนตัว เราก็ไม่มีอำนาจ
เปลี่ยนแปลง หรือทำให้มันออกมาในแบบฉบับ
ที่เราต้องการได้ เห็นจะไม่ได้ซักวิธีการเดียว
ตราบใดที่เราใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
พยายามมองอีกด้าน สิ่งที่ดีๆก็มีเยอะ
สวัสดิการรอบด้าน
ความคุ้มครองที่เข็มแน่น
ก็คิดแต่ในทางที่ดีมากๆแล้วกัน
ถ้าคุณมองในทางลบ ก็เห็นอะไรมากมาย
ซึ่งไม่ได้ปิดกันความเป็นจริง
แล้วแต่มุมและการมอง
ประเทศไทยเราเอง ถ้ามีการจัดอบรม
แบบนี้สำหรับชาวต่างชาติ หรือต่างด้าวบ้าง
ก็คงดี (ไม่ทราบว่าดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนบ้าง
ในปัจจุบัน )
วัฒนธรรมต่างถิ่น กฎหมายต่างเมือง
ถ้าสร้างความเข้าใจพื้นฐานอย่างละเอียดอ่อน
มันเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต
และการอาศัยร่วมกันได้ดีขึ้น มากโขอยู่
เผอิญเมื่อสองวันก่อนประจวบเข้ามา
ระหว่างฉบับร่าง ของบทความนี้
ได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนที่ทำกิจการร้านอาหาร
ที่นี่ก็ไม่ง่ายอย่างที่ใครหลายๆคนคิด
กฎเขามีตายตัว และค่อยข้างให้เป๊ะกันทีเดียว
เท่าที่คุยกันมา ขนาดร้านของคุณ
ใหญ่มากเล็ก
....ต้องมีห้องสุขาให้แขก
ถ้าใหญ่ตามอัตราที่ระบุไว้ ต้องมีห้องสุขา
สำหรับคนพิการด้วย
...ประตูส่งอาหาร ต้องไม่ใช้ประตูเดียวกัน
กับประตูที่ต้องนำจานชามเข้าไปเก็บ
จากลูกค้าที่ทานเสร็จแล้ว
...ต้องดูวัตถุประสงค์ ว่าคุณเป็นร้านอาหาร
ประเภทใด เวลาการเปิด- ปิด ก็ต่างกัน
ภาษีที่จ่ายก็ต่างกัน
และอะไรๆ หลายอย่างที่ต่างจากบ้านเรา
นั้น ยังมีอีกมาก
ทำให้เห็นว่า
พื้นฐานแรก
ทำไม เราต้องรู้กฎหมายต่างถิ่น
ประเทศที่เราพำนักอยู่
การดำรงชีวิตขั้นพื้นฐาน
เราไม่รู้ว่าสิ่งแวดล้อม
อะไรเปลี่ยนแปลงไปทางไหน
การลงทุนจะทำธุรกิจใดๆก็ตาม
ก็มีระบุเป็นกรณีๆ แตกต่างกันไป
ถ้าคุณขาดความรู้ ความเอาใจใส่
ที่จะศึกษามันให้ละเอียด
ความเสียรู้ เสียเปรียบ มันจะมาเยือน
อีกเรื่อง เพิ่งไม่กีวันมานี้
ที่เรียนรู้ และเข้าใจมา และน่าสนใจ
เรื่องกฎหมายแรงงาน เจ้านาย -ลูกจ้าง
ที่นี่แรง หนัก เข้ม จัดจ้าน
มีความน่าสนใจ ในผลรับ
แม้ในขณะคุณทำงาน
และลางาน
การหยุดพักงาน
การลาออก
การขาดงาน
การเพิ่มงาน
ฯลฯ
ทุกอย่าง มีผลต่อรายได้
และความเป็นอยู่ของครอบครัวคุณ
ถ้าคุณศึกษารายละเอียดให้ดี
คุณจะไม่โดนเอารัดเอาเปรียบ
และทำให้คุณรู้ว่า สิทธิ์ใดบ้าง
ที่คุณควรได้
หรือจะเป็นเรื่องของการ
มาศึกษาที่คุณมีสถานะเป็นนักศึกษา
มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ที่คุณต้องเข้าใจกฎหมาย
และวัฒนธรรม มีผลต่อการ
พัฒนาความสามารถ
ศักยภาพ การเรียนรู้ของคุณ
ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่น่าสนใจ
ขอให้คนไทยเราด้วยกัน
ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ขอให้อยู่เข้าใจ
ในความฉลาดของสังคม และกฎต่างเมือง
มีอะไรๆน่าสนใจ อีกมากในหลายๆเรื่องราว
ที่ต่างไป ของการดำรงชีวิตอยู่ที่นี่
ขอเวลาเรียนรู้และศึกษาให้กระจ่าง
แน่นอน เจอสิ่งใดที่เป็นประโยชน์
หรือความรู้ใหม่ๆ ที่แปลก ต่าง
จะนำมาเก็บไว้ในความทรงจำผ่านตัวหนังสือ
และเพื่อนๆผู้อ่าน ก็สามารถแชร์ความทรงจำ
ไปกับเป็นศูนย์ได้ ในทุกๆบทความ
ดิฉันภูมิใจกับเพื่อนๆคนไทยด้วยกัน
ที่ได้มาพบเจอ สานสัมพันธ์กันที่นี่
พวกเขามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
มากมายกว่าดิฉันนัก
แต่จะมีซักกี่คน ที่ยังไม่รู้อะไรเลย
ขอจงเริ่ม และศึกษาเรียนรู้ไปด้วยกัน
และหวังว่าคุณ ไม่ใช่ "ใครซักกี่คนนั้น "
ต่างชาติก็ไหว้เป็น จะมีต่างชาติซักกี่คนในประเทศเราเอง
ที่ปฎิบัติตัวได้อย่างน่าประทับใจ ตามธรรมเนียม ทุกครั้่งที่ได้พบเห็น
ขอขอบคุณภาพจาก Kapook.com
โชคดีทุกคน
พระเจ้าอวยพร

ความคิดเห็น